เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงสถานการณ์ผลกระทบจากการเปิดเสรีกัญชาทั่วประเทศว่า วันนี้อาการสังคมกำลังป่วยหนัก บ้านเมืองไร้ขื่อแป เกิดยุคคล้ายกับ “โรงฝิ่น” ในศตวรรษที่ 19 แต่วันนี้ศตวรรษที่ 21 กำลังเป็นยุค “บ้องโจ๋ครองเมือง” เสรียิ่งกว่า ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ วันนี้เด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก มีคนเจ็บคนป่วยคนตายทุกวัน ซึ่งดูแล้วหากรัฐบาลจะทำเนียนอ้างว่ารอ พ.ร.บ.ประกอบออกมาจะดีขึ้นนั้น ตนไม่เห็นด้วยเพราะวันนี้ทั้งสื่อโซเชียลวิทยุ โทรทัศน์ โฆษณาสินค้าผสมกัญชากันอย่างโจ่งครึ่ม ตู้กดน้ำใกล้สถานศึกษาโรงเรียน โรงพยาบาล คอนโดมิเนียมมีเพียบ ตนเชื่อว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศยกเลิกเสรีกัญชาไว้ก่อนจนกว่า พ.ร.บ.ประกอบ จะประกาศใช้เพื่อคืนสังคมที่ดีให้กับครอบครัวคนไทย

วันนี้การรณรงค์ข้อดี ข้อระวัง ของรัฐไม่จริงจัง ปล่อยให้คน พ่อแม่และสังคมชุมชน ดำรงชีวิตไปตามยถากรรม ในส่วนของตนไม่สามารถรอ พ.ร.บ.กัญชาประกาศใช้ได้ ตนได้ดำเนินการรณรงค์ให้ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะในพื้นที่งดเสพกัญชา โดยร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตคลองสามวา จัดทำแคมเปญ “การดูดปุ๊นขณะขับขี่ยานพาหนะมีโอกาสเสี่ยงถึงตายได้” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นรู้ถึงคุณและโทษของการเสพกัญชา นอกเหนือจากการแพทย์ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีส่วนราชการใดๆ จะรณรงค์ในพื้นที่อย่างจริงจัง จึงขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นจะเป็นตราบาปต่อครอบครัวคนไทยที่ลูกหลานต้องเดินทางผิดที่หลงเชื่อฟังแต่ข้อดีของรัฐบาล

นอกจากนี้ นายจิรายุยังกล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขอเตือนไปยังรัฐบาลว่าไม่ใช่แค่ 11 รัฐมนตรีเท่านั้นที่จะถูกอภิปราย เป้าหลักคือ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง โดยวันอภิปรายขอให้มากันให้ครบ ถ้าหากมาไม่ครบจะถือว่าปล่อยให้นายกรัฐมนตรีถูกลอยแพ เพราะการอภิปรายนายกรัฐมนตรีต้องพาดพิงไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ขอย้ำว่าไม่ใช่รัฐมนตรี 11 คน แต่ยังมีอีกหลายคนที่ถูกพาดพิงถึง ส่วนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น จากการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านคาดว่าจะต้องใช้เวลาเยอะ ถ้า 3 วัน เผาเลยจะไม่ได้เรื่อง ถ้า 5 วัน สวดแล้วเผา คิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม และขอให้นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เผื่อใจไว้ว่าจะได้ 5 วัน เพราะถ้า 3 วัน ไม่มีอะไรดีขึ้น หรือไม่น่าสนใจ ฝ่ายค้านจะโดนตำหนิได้ เพราะฉะนั้นขอเป็น 5 วัน.