ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดงานโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การปลูกกระท่อมอินทรีย์ : พืชเศรษฐกิจตัวใหม่” ครั้งที่ 1 ณ ลานประชุมสวนผู้ใหญ่บ้าน ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยมีนายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานบริษัทเคดับบลิวเอชบี จำกัด หรือ KWHB เป็นประธานจัดงาน นายอำนาจ โสรถาวร เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทุมพร สุระยศ รองคณบดีวิทยาลัยการศึกษาและการจัดการทางทะเล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมงาน

นายเอกพันธ์ กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของพืชสมุนไพรไทย จึงมีนโยบายการทำธุรกิจด้วยสารสกัดจากสมุนไพร โดยได้ก่อสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องสกัด ที่ ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพร ซึ่งไทยเป็นประเทศที่นับว่าปลูกพืชสมุนไพรได้หลากหลายชนิด ยาบางตัวนำเข้าสารสกัดจากต่างประเทศ ทั้งที่พืชตัวดังกล่าวปลูกที่ประเทศไทย ส่งไปขายในราคาถูก แต่เมื่อนำกลับเข้ามาเป็นสารสกัด กลับมีราคาแพง บริษัทจึงเกิดแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้สารสกัดสมุนไพรไทยมีคุณภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศ พัฒนาสารสกัดที่ดีที่สุด โดยตั้งใจพาสมุนไพรไทย ไปสู่ชาวโลกให้ได้

“เรามุ่งมั่นที่มาทำงานเรื่องเกษตรกร สารจากใบกระท่อม เป็นเพราะความตั้งใจที่อยากจะทำเรื่องพืชสมุนไพรของประเทศ ให้ไปเติบโตในตลาดสากลให้ได้ วันนี้เป็นวันแรกที่ต้องสร้างต้นน้ำที่ดี จึงมาจัดงานเพื่อมอบพืชกระท่อมให้กับพี่น้องเกษตรกรและสอนวิธีการปลูกให้เป็นเกษตรอินทรีย์ ไม่ให้มีสารตกค้าง นอกจากนี้เรายังได้นำปุ๋ยอินทรีย์ โดยมีท่านเกษตรจังหวัดเป็นผู้ให้การสนับสนุน เรื่องวิชาการต่างๆ ต่อไปกระท่อมของเราที่มาปลูกที่สมุทรสาครจะไม่มีสารตกค้าง เหมาะสมที่จะเอาไปทำสารสกัดได้ คือความตั้งใจทำสารสกัดไปสู่สากลให้ได้ พื้นฐานแรกต้องดีก่อน เรากำลังทำเรื่องโรงงานสกัดพร้อมกับเราหาตลาดให้ด้วย ถือเป็นก้าวแรกของเรา” นายเอกพันธ์ กล่าว

นายอำนาจ โสรถาวร เกษตรจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของภาครัฐได้เข้ามาทำความเข้าใจร่วมกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ถือว่าเป็นโครงการที่ดี เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ประกอบการตัดสินใจเลือกปลูกพืชทางเลือกใหม่ชนิดนี้ ตนในฐานะเป็นส่วนราชการถือว่าโครงการนี้มีประโยชน์ ทำให้พี่น้องเกษตรกรนำไปปรับใช้ในพื้นที่ เป็นการเพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยง เนื่องจากว่าการปลูกพืชในอดีตที่ผ่านมาเป็นพืชเชิงเดี่ยว แต่ ณ ขณะนี้ มีภาคเอกชน ภาคส่วนราชการ หลายส่วน ที่เข้ามาร่วมบูรณาการในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร

เภสัชกรโกวิทย์ พวงชมภู กรรมการบริษัทเคดับบลิวเอชบี จำกัด กล่าวว่า สมุนไพรที่บ้านเรามีอยู่กว่า 1,000 ชนิด ควรจะได้รับการพัฒนา เป็นอาหารเสริมหรือเครื่องดื่ม พัฒนาเป็นยา ยกตัวอย่าง กระท่อม มีฤทธิ์แก้ปวด เวลายาแก้ปวดราคาแพงๆ เม็ดหนึ่งก็ประมาณ 60 บาท เราทำไมไม่สกัดกระท่อม มาทำการทดลอง พัฒนาให้ไปเป็นยา ซึ่งในต่างประเทศมีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกสู่ผู้บริโภคไปไกลมาก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทุมพร สุระยศ รองคณบดีวิทยาลัยการศึกษาและการจัดการทางทะเล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์หาปริมาณของสาระสำคัญในกระท่อม เริ่มต้นก่อนที่จะมีการสกัดกระท่อม เราจะมีการตรวจใบกระท่อมโดยใช้เครื่องมือที่วิเคราะห์โลหะหนัก เราจะมีเครื่อง ICP และ AIS ที่ใช้ในการวิเคราะห์ หลังจากนั้นนำใบกระท่อมที่ปราศจากโลหะหนักมาสกัด เมื่อสกัดกระท่อมออกมาแล้ว จะมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้สกัดปริมาณสารสำคัญที่อยู่ในใบกระท่อม มีอยู่ 2 เครื่อง คือ HPLC หรือเราเรียกว่า High Performance Liquid Chromatography อีกเครื่องคือ GC(MS) หรือ Gas Chromatograph ทั้งสองเครื่องจะใช้ในการวิเคราะห์หาสาระสำคัญในกระท่อมทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ

นายจิรวุฒิ พัฒนพงศ์พิบูล กรรมการบริษัทเคดับบลิวเอชบี จำกัด กล่าวว่า การที่เรามาสร้างโรงงานและส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกกระท่อม จะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชากรในพื้นที่ ตอนนี้เรามีแผนโครงการที่ส่งเสริม คอนแทรคฟาร์มมิ่ง (contract farming) ให้ความรู้กับเกษตรกรที่จะปลูกเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ หวังว่าเกษตรกรจะร่วมมือและจับมือเราไปด้วยกัน สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน

ขณะที่ตัวแทนชาวเกษตรกร จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ถือเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ บริษัทฯ นำต้นกล้ามาให้ปลูก แล้วก็หาตลาดรับซื้อในราคาที่เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยที่พี่น้องชาวเกษตรกรไม่ต้องลงทุน คือเราลงทุนเฉพาะที่ดิน ลงแรงดูแลให้เรียบร้อย คือต้องเป็นชีวภาพปลอดสาร แม้ตอนนี้พื้นดินของเรายังมีสารเคมีหลงเหลืออยู่บ้างเพราะการทำพืชเกษตรชนิดอื่น แต่อีก 5-6 เดือน สารเคมีก็จะหมดไปเพราะว่าเราใช้สารชีวภาพ ตามที่บริษัทกำหนด เชื่อว่าวันข้างหน้าพี่น้องเกษตรกร คงมีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ดีมีสุขมากกว่าเดิม.