เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำ ที่รัฐสภา ในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวกับที่ประชุมย้ำว่า จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแน่นอน หลังจากพบว่าฝ่ายบริหารมีการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตย ถือเป็นการจงใจฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ดังนั้นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีการอภิปรายเรื่องดังกล่าวแน่นอน 

จนเวลา 21.45 น. หลังจากที่สมาชิกอภิปรายกันครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ที่ประชุมรัฐสภาลงมติไม่เห็นด้วยกับมาตรา23 เรื่องการใช้สูตรหาร 100 ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามเนื้อหาที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอมา ด้วยคะแนน 392 ต่อ160 งดออกเสียง 23 ไม่ลงคะแนน 2   

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติว่าจะเห็นด้วยกับ คำแปรญัตติของผู้สงวนคำแปรญัตติกลุ่มใด พบว่า กลุ่มของ ส.ว. นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ขอถอนญัตติ และสนับสนุนให้ใช้เนื้อหาของ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ขณะที่คำแปรญัตติของ พล.ต.ท.วิศนุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ได้ขอถอนญัตติ ทำให้คงเหลือญัตติที่ต้องตัดสิน คือสูตรของ นพ.ระวี กับ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งท้ายที่สุดผลปรากฏว่า เสียงข้างมาก 354 เสียง เห็นด้วยกับคำแปรญัตติของ นพ.ระวี ต่อ 162 เสียง งดออกเสียง 37 เสียง 

ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้กล่าวถึงกรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ตะเพิดนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ไม่ให้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เนื่องจากคุมการประชุมไม่ได้ ว่า ตนฟังการประชุมอยู่ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ได้ขอถอนไปแล้ว ซึ่งขอให้สมาชิกกรุณาให้เกียรติประธานในที่ประชุมด้วย ไม่ว่าจะเป็นนายพรเพชร หรือใครก็ตามที่ขึ้นมาทำหน้าที่ เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง จากนั้นได้พิจารณา มาตรา 24 ซึ่งไม่มีการแก้ไข และนายชวน ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 22.16 น.