เมื่อวันที่ 7 ก.ค. เวลา 14.45 น. ที่ขาณุวรลักษบุรี โมเดล หมู่ 2 ต.แสนตอ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการผลิตข้าวมาตรฐานเกษตรปลอดภัยของกลุ่มปลูกข้าว GAP “ขาณุวรลักษบุรี โมเดล” แนวทางการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน โดยนายกฯ ได้ลองขับรถดำนา รุ่น 8 แถว นั่งขับ SPV 8 และชมโดรนพ่นปุ๋ย ก่อนนั่งพูดคุยกับเกษตรกร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มาดูผลสำเร็จในพื้นที่ เพื่อดูว่าจะทำอะไรต่อไปได้ ขอยืนยันว่านายกฯ ทำเต็มที่ จะดูแลทุกคน วันนี้ดีใจที่ชาวขาณุโมเดล ประสบความสำเร็จทำให้มีข้าวประจำถิ่น เราจะเป็นตัวอย่างให้กับผู้ที่ยังไม่พร้อมที่จะทำ สิ่งสำคัญคือโรงสี ที่ต้องดูแลช่วยเหลือเกษตรกร หากช่วยกันทำสิ่งใดได้ก็ต้องช่วย เพื่อที่จะทำให้ดีขึ้น เพราะเกษตรกรทนมาครึ่งชีวิต สิ่งสำคัญคือต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด ถ้าช่วยให้ประสบความสำเร็จ จะเป็นกุศลก็จะย้อนกลับมาที่เรา ที่โรงสีนั่นคือกุศล คือการทำความดีให้คนอื่นมีความสุข วันนี้นายกฯ ก็ใช้วิธีนี้ ถ้าทำเมื่อไหร่ประสบความสำเร็จกับประชาชน นายกฯ ก็จะมีความสุข ถ้าไม่สำเร็จนายกฯ ก็ร้อนใจ

“วันนี้ไม่ได้มาขอคะแนนเสียง ตนคือนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่มาดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ตนรับฟังจากทุกส่วนทั้งรัฐมนตรี ส.ส. ถ้าผมได้ทำงาน ก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ ให้มีผลงานเป็นรูปธรรม ที่เน้นวันนี้คือโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟฟ้าทางคู่ สนามบิน ทั้งหมดทำไปเท่าไหร่แล้ว ใช้เวลา 8 ปีเต็มๆ ถึงได้มีผลงานวันนี้ รัฐบาลถ้าอยู่ยาวต้องมีผลงานแบบนี้ แต่ถ้าอยู่สั้นๆ 1-2 ปี มีผลงานเล็กๆ น้อยๆและไม่สำเร็จ รัฐบาลต้องทำงานแบบมียุทธศาสตร์ ไม่ได้ทำแบบสุกเอาเผากิน ผมไม่ได้ต้องการให้เงินทั้งหมดมาเป็นบุญคุณกับเรา แต่ให้เงินเพื่อไปสร้างความเข้มแข็งและเป็นรูปธรรม”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความมั่นคงเสถียรภาพของรัฐบาล ถ้าประชาชนรักกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ทุกคนไปด้วยกัน จะทำให้คนอยากมาประเทศไทย ถ้าเขามา เขาก็อยากมาใช้เงินอยากมาลงทุนกับเรา หลายประเทศเอาคนต่างประเทศเข้ามาไม่อั้น ให้สิทธิประโยชน์คนพวกนี้ก็มากันหมด แต่คนสมองดีๆ ไปหมดให้สัญชาติส่งไป แต่เรายังให้อย่างนั้นไม่ได้ แต่เราก็หาวิธีการให้เขามาอยู่เมืองไทยในเรื่องต่อวีซ่า จะเห็นว่าต่างประเทศมาอยู่ประเทศไทย เช่น ญี่ปุ่นมาแล้วไม่อยากกลับ เพราะอยู่บ้านเขาค่าใช้จ่ายสูง คนไทยบางคนอยากไปอยู่ข้างนอก ตนก็แปลก งงๆ อยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนสร้างความขัดแย้ง ตนเข้ามาเพื่อให้มันสงบ และวันนี้ไม่อยากขัดแย้งอีก เพราะฉะนั้น นั่นคือความหนักใจของตน ถ้าทะเลาะกันอีกสิ่งที่ตนทำไว้ไปหมด เอกอัครราชทูต ทูต ผู้นำมา รองนายกฯ มา เขาบอกขอให้ประเทศไทยสงบสุขเท่านั้นเอง ด้านอื่นเขาพร้อมหมดและพร้อมจะมา มีเรื่องการลงทุนและรถไฟฟ้าพร้อมจะมาเกือบ 10 บริษัท จะมาทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนรถไฟฟ้าอันดับต้นของโลก

นายกฯ ยังกล่าวตอนท้ายด้วยว่า วันนี้ตนขอใช้คำว่าเราเอาชนะโควิดได้แล้ว ชนะที่เราอยู่กับเขาได้ คือใส่หน้ากากถ้าอยู่ในพื้นที่ไม่ปลอดภัย และอยู่ในโลกของการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย