เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 19 ต่อไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย.2565 ทั้งนี้ ผอ.ศบค.เน้นย้ำว่าการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังกล่าว เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันโรคและรักษาชีวิตประชาชน ส่วนในเรื่องอื่นๆไม่ได้เป็นวัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ย้ำว่าไม่ได้มีส่วนในการจำกัดเสรีภาพอะไร

นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมการรับมือการระบาดและเปลี่ยนผ่านสู่การบริหารจัดการหลังการระบาด รวมถึงเห็นชอบในหลักการมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อชาติ กำหนดกรอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคตามมาตรา 14 (1) ของพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และเห็นชอบหลักการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้เกินกว่าร้อยละ 60 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง และมอบให้สาธารณสุขจัดระบบการเข้าถึงยาต้านไวรัสให้สะดวก และเข้าถึงง่ายพร้อมมอบหมายกรมประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการสวมหน้ากาก และการรับวัคซีน และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ตัดโรคโควิด-19 ออกจากโรคต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร.