เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร พร้อมครอบครัวได้เดินทางมาตามนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.887/2565 คดีที่ น.ส.เจนี่ เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ปุณรดา เป็นจำเลย กระทำผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

กรณีวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายกรรมใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั้ง เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ โดยใช้ชื่อ“Warasiri Kotcharat ในเพจเฟซบุ๊ก “สัพเพเหระ all about ไอ้แบ้และอิปลวก” โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์โดยด้วยถ้อยคำหยาบคายที่น่าจะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เกี่ยวกับครอบครัว และการเลี้ยงดูบุตรสาวของโจทก์ รวมทั้งถ้อยคำกล่าวหาว่าโจทก์เป็นเหตุให้สามีภรรยาอื่นเลิกกัน อันเป็นความประพฤติผิดศีลธรรมอันดีของสังคม ฉ้อโกงบุคคลอื่นนั้น ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เนื่องจากโจทก์ประกอบอาชีพดารานักแสดง การที่จำเลยการเผยแพร่ข้อความดังกล่าว อาจทำให้โจทก์ได้รับความนิยมน้อยลง และอาจมีผลต่อการจ้างงานของโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328

ต่อมา น.ส.เจนี่ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังขึ้นเบิกความจนแล้วเสร็จว่า วันนี้ตนมาที่ศาลครั้งแรก ในนัดไต่สวนมูลฟ้องซึ่งศาลท่านก็รับคำฟ้องเป็นคดี ที่จริงตนจะฟ้องประมาณ 10 คน และทุกคนสามารถตามตัวได้ ซึ่งจำเลยวันนี้เป็นรายที่ 2 แล้ว รายแรกนั้นถูกตัดสินลงโทษจำคุกและปรับเงิน โดยตนขอไม่บอกจำนวนเงิน แต่เมื่อได้มาตนก็นำไปบริจาคทำบุญทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาในทุกรายจะมีการส่งคนมาขอเจรจา แต่ตนไม่ขอรับคำเจรจาใดๆ สำหรับจำเลยคนนี้เองก็มีการแจ้งผ่านทนายขอไกล่เกลี่ยซึ่งตนไม่ยอม และขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ทางศาลได้นัดตัดสินในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้วันนี้ทางฝั่งจำเลยก็ไม่ได้เดินทางมาตนก็ไม่เคยเจอจำเลยรายนี้เช่นกัน ตนมองว่าการที่ไม่มาในนัดวันนี้ก็เหมือนครึ่งหนึ่งได้ยอมรับผิดไปแล้ว ตนคิดว่าเวลาใครทำอะไรแล้วไม่ได้ทำครั้งเดียวนั่นหมายความว่าคุณคิดแล้ว ดังนั้นใครทำอย่างไรก็ต้องได้รับผลตามนั้น ส่วนรายอื่นๆ นั้น ตนก็จะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะว่าเขาทำมาหลายครั้งแล้ว

“แต่ก่อนเจนี่ก็ยอมทุกครั้งแต่ครั้งนี้มาพาดพิงถึงลูกของเรา ในฐานะคนเป็นแม่มีหน้าที่ต้องปกป้องลูก อะไรที่เกี่ยวกับลูก ถ้าเจนี่ทำได้เจนี่ก็จะทำ วันนี้เดินทางมาศาลครั้งแรกก็ตั้งใจที่จะมาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกของเราและเจนี่ไม่ได้ทำผิด แต่เวลาคนอื่นมาทำผิดกับเรา เราก็ต้องการความยุติธรรมให้ตัวเองและลูกของเรา วันนี้ก็ถือว่าเจนนี่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของแม่แล้ว” น.ส.เจนี่ กล่าว

เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรกับสังคมที่มีกรณีเช่นนี้บ่อยมาก น.ส.เจนี่ กล่าวว่า อะไรที่ล้ำเส้นเกินไป เกินความเป็นส่วนตัวของเรา แล้วก็เกินขอบเขต ถึงแม้ตนเข้าใจว่าตัวเองเป็นคนของประชาชน เป็นบุคคลสาธารณะแต่จะมีบางอย่างที่เกินคำว่าสาธารณะไป คือเจนนี่ก็อยู่ในวงการมานาน รับได้ใครจะรักใครจะไม่ชอบเราก็เป็นเรื่องปกติ แต่อะไรที่มันล้ำเส้นเกินไปและรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเรา ตนก็ต้องออกมาปกป้องตัวเอง ถ้าหลังจากนี้ยังมีคนทำในลักษณะเช่นนี้ตนก็จะฟ้องหมด ไม่รับกระเช้าหรือคำขอโทษใดๆ