เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ ห้องสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และคณะพนักงานสอบสวน ได้นำวัตถุพยานผ้าคาดเอวที่ “บังแจ็ค” อ้างว่าเป็นของนักแสดงสาวแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ไปส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาข้อสรุปว่าผ้าสีขาวดังกล่าว เป็นผ้าที่คาดอยู่ตรงเอวของแตงโม ที่หายไปหลังเกิดเหตุแตงโมตกลงในแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตหรือไม่ และคราบเลือดที่อยู่บนผ้านั้น เป็นคราบเลือดของแตงโมจริงหรือไม่ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ผ้าขาวคาดเอวแตงโม ดีเอ็นเอเลือดผู้ชายชัด! สั่งตรวจละเอียด ฟันธงสัปดาห์หน้ารู้บทสรุป
ความคืบหน้าล่าสุด ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผศ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสหวิทยาการคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้รับจากนายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค และ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เลขาฯ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากการรับผ้าสีขาวและหีบห่อดังกล่าวไปตรวจสอบโดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ด้วยการตั้งข้อสังเกตต่างๆ โดยดีเอสไอได้ตั้งสมมุติฐานแรกว่า คล้ายผ้าที่ปรากฏในภาพถ่ายของแตงโม โดยมีความคล้ายคลึงกัน และผ้าดังกล่าวที่ส่งผลมาในหีบห่อนั้นก็มีคราบเลือด เป็นลิ่มสีแดง จึงตั้งประเด็นว่า 1.เป็นคราบเลือดหรือไม่ 2.เป็นคราบเลือดมนุษย์หรือไม่ 3.เป็นคราบเลือดของแตงโมหรือไม่ 4.พบเส้นผมสองเส้นในหีบห่อวัสดุ ว่าเป็นเส้นผมของใคร 5.ผ้ามีร่องรอยถูกกรีด คัด เฉือนหรือทำให้ขาดและเกิดขึ้นก่อนมีคราบเลือดบนผ้าหรือไม่ 6.ดินทรายที่ฝังอยู่ในผ้าผืนดังกล่าวว่าเป็นดินทรายประเภทอะไร ซึ่งเป็น 6 ประเด็นที่ดีเอสไอได้ดำเนินการตั้งข้อสังเกต และนำวัตถุพยานส่งให้แก่กรมทรัพยากรธรณีและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ตรวจสอบ
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าคราบเลือดเป็นคราบเลือดมนุษย์จริง แต่เป็นคราบเลือดที่ทางการแพทย์เรียกว่า Eurasian Indian (ยูเรเซียนอินเดียน) และไม่ใช่เลือดมนุษย์ของผู้หญิง และที่สำคัญไม่ใช่เลือดของแตงโม รวมถึงผ้าดังกล่าวไม่ใช่ผ้าผืนเดียวกับที่ปรากฏกับแตงโม เพราะมีร่องรอยการขาด ส่วนร่องรอยการขาดจากกรีดนั้นไม่มี และเส้นผมที่พบในหีบห่อ ก็เป็นเส้นผมผู้ชาย มีลักษณะเดียวกับคราบเลือด ส่วนคราบดินที่นำมาเปรียบเทียบ ไม่ใช่ดินทรายที่ตรงกับที่เกิดขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เป็นแร่ควอตซ์ ออกนอกโคโรไมค์แอนโนไทด์
“การกระทำดังกล่าว จึงขอฝากประชาชนให้รับทราบว่า มันทำให้เกิดความเสียหาย การสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจำนวนมาก หากใครจะส่งอะไรมาก็ควรพิจารณาก่อนว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นในคดีหรือไม่ หากทำพยานหลักฐานเท็จขึ้นมา ทางเรายืนยันว่าจะไม่ปล่อย เดี๋ยวจะให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษไปดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย เพราะเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม และการตรวจพิสูจน์ทราบของกรมทรัพยากรธรณีก็เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ดังนั้นการสร้างพยานหลักฐานทั้งหลายทำให้เกิดปัญหาก็จะมีข้อกฎหมายเกี่ยวข้อง ส่วนที่ กมธ.ยื่นมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ไม่ถือว่า กมธ.เป็นผู้ที่กระทำผิด เพราะนำส่งเนื่องด้วยมีคนร้องมา กมธ.ถือเป็นผู้เสียหาย ดังนั้น กมธ.ควรไปร้องทุกข์ ส่วนชื่อผู้หญิงที่ปรากฎบนหีบห่อนั้น ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำเรื่องถึงตำรวจที่อเมริกาให้ช่วยติดตามเรื่องนี้ เพราะเราถือว่าเรื่องนี้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าว
