เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ศาลาสามัคคีธรรม วัดช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ทางครอบครัวได้นำร่างของดาราตลกชื่อดัง โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม หรือ นายวลัชณัฏฐ์ ก้องภพฐิตารีย์ อายุ 57 ปี มาตั้งบำเพ็ญกุศล โดยภายในงานมี เป็ด เชิญยิ้ม ที่ปรึกษาสมาคมตลก โอบะ เชิญยิ้ม นายกสมาคมตลก พร้อมกลุ่มศิลปินตลกจากสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย อาทิ นุ้ย เชิญยิ้ม พร้อมภรรยา ตั๊ก เต็งหนึ่ง ดอกกระโดน โยกเยก หนูเล็ก ก่าก๊า และญาติพี่น้องมาร่วมรดน้ำศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ถึงแม้จะมีเหล่าศิลปินดาราตลกมาร่วมงาน มีการตกแต่งศาลาด้วยการผูกผ้าสีขาวโดยรอบ

เป็ด เชิญยิ้ม กล่าวว่า ต้องยอมรับอาชีพของตลกทำงานกันหนัก มีเวลาพักผ่อนน้อยและไม่ได้ห่วงสุขภาพกัน จึงขอฝากสมาชิกของสมาคมตลกควรจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพและให้ตลกดูแลซึ่งกันและกัน เสียใจมากกับการจากไปของโป๊งเหน่ง เคยร่วมงาน เป็นคนที่เก่งมีคาแรกเตอร์ชัด

เฮงเฮง ลูกชาย กล่าวว่า พ่อดื้อมาก เวลาที่เจ็บป่วยอะไรไม่ค่อยหาหมอ แต่เมื่อป่วยแล้วก็เป็นหนักเลย เป็นไตพ่อไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอในเรื่องของการกินอาหาร เพราะอยากกินอะไรพ่อจะกิน พ่อบอกว่าพ่ออยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ซึ่งสามสี่เดือนที่ผ่านมาก็พาพ่อไปฟอกไตตลอด ซึ่งพ่อห่วงแม่มาก และพ่ออยากให้ตนเองเป็นตลก แต่อยากให้ตนเองอยู่ในวงการด้วยตัวเองก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต เหมือนพ่อรอให้ทุกคนไปหาที่โรงพยาบาลจนครบ พอครบแล้วเดินทางกลับจากโรงพยาบาลได้เพียง 10 นาที พ่อก็จากเราไป ทางครอบครัวได้มีการสั่งเสียและบอกกับคุณพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงคุณแม่ เนื่องจากตนเองจะดูแลคุณแม่และน้องๆ เอง แต่ตอนนี้ก็เป็นห่วงสภาพจิตใจคุณแม่มากๆ เนื่องจากทั้งคู่คุณพ่อและคุณแม่รักกันมาก เมื่อคุณพ่อต้องมาจากไปทำให้คุณแม่ยังทำใจไม่ได้

ด้านนางหมู สมญา ภรรยาของโป๊งเหน่ง ทันทีที่ได้เดินทางมาถึงศาลาที่วัด พอเห็นร่างไร้วิญญาณของสามีถึงกับทรุดตัวและร้องไห้ปานจะขาดใจ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า โป๊งเหน่งฝากให้ตนดูแลครอบครัวและอยากให้ลูกชายเจริญรอยตามตัวเอง จะได้มีรายได้มาดูแลครอบครัว

ขณะที่ ฤาษีเณร ธาตุพุทธคุณ กล่าวว่า โป๊งเหน่งอยู่กับตนเองที่อาศรมในอำเภอบางไทรมาได้ประมาณ 10 ปี อยู่ด้วยกันทุกวัน เห็นกันทุกวัน ช่วยเหลือกิจกรรมงานของอาศรมมาโดยตลอด มีความสนิทสนมกันทั้งครอบครัว เป็นพี่เป็นน้องเป็นพ่อเป็นลูกกันก่อนที่จะเสียชีวิต ที่เข้าไปโรงพยาบาลยังเห็นโป๊งเหน่งมีอาการดีขึ้น ยังแอบดีใจว่าจะมีชีวิตรอดอยู่ด้วยกันอีก แต่พอช่วงค่ำลูกชายก็โทรฯ มาบอกว่าคุณพ่อได้เสียชีวิตแล้ว จริงๆ ก็ได้ทำใจไว้แล้ว แต่ก็ยังอดที่จะเสียใจและตกใจไม่ได้ สำหรับการจัดงานตนจะเป็นคนจัดงานให้ทั้งหมด และจัดให้ดีที่สุดพร้อมกับจะดูแลครอบครัวของโป๊งเหน่งต่อไป.