เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถนนพระราม 4 ศาลอ่านคำพิพากษาในคดี ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวงยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน เเละ น.ส.จุฑาทิพย์ สิริขันธ์ หรือ อั๋ว 2 นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักกิจกรรม ​ในความผิดฐานจัดการชุมนุมและเข้าร่วมการชุมนุมอันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่ จุฑาทิพย์ ยังถูกฟ้องในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานอีกข้อหาหนึ่ง

กรณีเข้าร่วมกิจกรรม #Saveวันเฉลิม บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2563 เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถูกบังคับสูญหายไปในเย็นวันก่อนหน้านั้น โดยในส่วนของข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามมาตรา 368 นั้น สืบเนื่องมาจาก น.ส.จุฑาทิพย์ ได้เดินทางไปรับทราบข้อหา เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2563 โดยพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ขอให้ น.ส.จุฑาทิพย์ พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติการต้องโทษคดีอาญา แต่จุฑาทิพย์ปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา

โดยศาลพิเคราะห์เเล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 (2), 18 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 อีกกระทงหนึ่งปรับ 2,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2 มี กำหนด 2 เดือน และปรับ 12,000บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้จะขอยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลสูงต่อไป