เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ศาลจังหวัดไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี นางจินดาหรา วศินทรัพย์ อายุ 31 ปี ภรรยานายโกศล เรืองดุก อายุ 43 ปี เสี่ยรับซื้ออาหารทะเลที่ถูกนายสุรัตน์ เศวตศิลป์ อายุ 43 ปี พร้อมพวกรวม 8 คน ผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุฆ่านำศพไปทิ้งอำพรางยังหาไม่พบ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ค.64 ที่ศาลาหน้าบ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 5 ต.ตะกรบ อ.ไชยา ได้เดินทางไปยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลนายสุรัตน์ กับพวกทั้งหมดที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.ไชยา และการสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวนมีมติไม่ให้ประกันตัว

นางจินดาหรา กล่าวว่า หลังจากเมื่อวาน (3 ส.ค.) ตนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวน และคณะทำงานสอบสวนไม่ให้ผู้ต้องหาประกันตัวแล้ว วันนี้จึงตัดสินใจเดินหน้ายื่นคัดค้านการประกันตัวต่อศาลจังหวัดไชยา โดยให้เหตุผลกลัวผู้ต้องหาจะก่อความยุ่งเหยิงในพยานหลักฐาน และกังวลว่าหากผู้ต้องหาถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว จะส่งผลต่อพยานบุคคลที่ไม่กล้าออกมา ซึ่งหากผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย หรือใครคนหนึ่งโดยเฉพาะนายสุรัตน์ ได้รับการประกันตัว ตนเองคงต้องเดินทางออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย

ต่อมา ที่ สภ.ไชยา พ.ต.อ.อรุณพงษ์ ภารพบ ผกก.สภ.ไชยา ได้แจ้งความคืบหน้าคดีเป็นเอกสารให้นางจินดาหราและญาติ ให้ความมั่นใจตำรวจ สภ.ไชยา จะให้ความยุติธรรมตามกระบวนการกฎหมายถึงที่สุด ไม่ต้องกังวล

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.ดนัย จันทร์กลั่น รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไชยา พนักงานสอบสวนในคดี ได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 8 รายต่อศาลจังหวัดไชยา พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยอ้างเหตุอาจจะสร้างยุ่งเหยิงให้กับพยานหลักฐาน ซึ่งศาลได้ไต่สวนคำร้องผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากห้องพิจารณาคดี มายังห้องขัง สภ.ไชยา ซึ่งได้มีญาติผู้ต้องหาทั้ง 8 รายพร้อมทนายความ ได้นำหลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันต่อศาลเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว

โดยศาลได้ใช้เวลาไต่สวนประมาณ 30 นาที ได้มีคำสั่งรับคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย และไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมทั้งให้นำตัวทั้งหมดไปควบคุมยังเรือนจำไชยา โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยา และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ควบคุมทั้ง 8 รายออกจากห้องควบคุม ไปยังเรือนจำไชยาทันที