เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา(วันที่13ก.ค.) ร.ต.อ.ถิรวัฒน์ เยี่ยมอ่อน รอง.สว.(สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนควาย บนถนนสายสุวรรณศร 33 (สายเก่า) บ้านโคกหอม หมู่ 16 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบนถนนดังกล่าวเป็นพื้นที่มืดไม่มีไฟส่องสว่าง พบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 30-0655 ปราจีนบุรี สภาพด้านหน้ามีรอยชนเสียหาย ภายในมีพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งโดยสารมา อยู่ในอาการตื่นตกใจแต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ ห่างไปเล็กน้อยพบควายเพศเมียท้องแก่ นอนตายอยู่บนถนน โดยมีเจ้าของความยืนรอพบเจ้าหน้าที่อยู่ จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่ารถตู้รับส่งคนงานมาจากจ.นครนายกไปส่งทำงานบริษัทในจ.ปราจีนบุรี ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุปรากฎว่ามีฝูงควายเดินข้ามถนนตัดหน้า ประกอบกับจุดเกิดเป็นพื้นที่มืดไม่มีไฟส่องสว่าง รถตู้ขับมาด้วยความเร็วทำให้เบรกไม่ทันชนควายตายอย่างจัง รถเสียหายดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าของควายจะนำเชือกมาลากซากควายกลับไปแต่ทางคู่กรณีไม่ยอมให้รอพร้อมแจ้งตำรวจกับประกันภัยมาตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุริมถนนพบมีจอมปลวกขนาดใหญ่ก่อตัวปกคลุมต้นไม้ อีกทั้งมีลักษณะเศียรพญานาคโผล่ออกมา ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมักมีเกษตรกรเลี้ยงควายนำควายมาปล่อยกินหญ้าบริเวณดังกล่าว จำนวน 200 – 300 ตัว ทำให้มีควายมักเดินข้ามถนนกันไปมาและเกิดอุบัติเหตุรถชนควายตายบ่อยครั้ง แต่ที่เป็นที่โจทก์ขานของชาวบ้านว่าจอมปลวกบริเวณดังกล่าวมีอาถรรพณ์ความเฮี้ยนเพราะที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุรถชนควายบ่อยครั้งและส่วนใหญ่ควายที่ถูกรถชนตายบริเวณดังกล่าวจะเป็นแม่ควายท้องแก่คล้ายถูกชนตายเพื่อสังเวยจอมปลวก จนชาวบ้านต้องนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ จนมีการพูดถึงความเฮี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวซ้ำอีก