เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ก.ค. ร.ต.อ.พุทธรักษ์ สอนคำหาร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยาได้รับแจ้งพบโครงกระดูกมนุษย์ เสียชีวิตมาแล้วประมาณครึ่งเดือน บริเวณป่าหญ้าหลังหลังโรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับรายงาน ได้รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งป่าหญ้าคา ในเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ใจกลางเมืองพัทยา ตรวจสอบพบโครงกระดูกชาวต่างชาติ ที่เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทราบชื่อต่อมา คือ นายเกลน เวอร์นอน อายุ 79 ปี ชาวแคนาดา โดยข้างศพ พบเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงสีดำ ภายในกระเป๋า พบเงินสกุลต่างชาติ ดอลลาร์แคนาดา และพาสปอร์ตของผู้ตาย ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม น.ส.ดา พรมทุ่ง อายุ 54 ปี ผู้ช่วยแม่บ้าน โรงแรมลีลาวดี ผู้ที่มาพบศพคนแรก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกมาหาเก็บผักบุ้ง จากนั้นได้กลิ่นเหม็นเน่าซากศพโชยไปทั่วบริเวณ ครั้งแรกคิดว่าซากศพสุนัข แต่พอเดินเข้าใกล้ถึงกับผงะ เมื่อสิ่งที่พบตรงหน้าคือโครงกระดูกของมนุษย์ จึงรีบเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า ผู้ตายถูกทางโรงแรมทวิน รีสอร์ท พัทยา ซึ่งอยู่จากจุดที่พบศพประมาณ 500 เมตร เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ตาย ได้เดินเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. เพื่อเดินทางมาหาแฟนสาวชาว จ.ชัยภูมิ โดยเข้าพักที่ โรงแรมทวิน รีสอร์ท พัทยา จากนั้นได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ตำรวจได้ส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่ตามหา ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็ไม่พบเบาะแส จนกระทั่งมาพบว่าเป็นศพดังกล่าว ขณะที่สาเหตุการตาย ต้องส่งศพให้ สถาบันนิติเวชวิทยา สนง.ตำรวจแห่งชาติ ชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง นอกจากนี้ตำรวจได้ไปตรวจสอบที่โรงแรม รวมถึงทรัพย์สินในตัวผู้ตาย มีการยืนยันว่าอยู่ครบ แต่ที่เป็นข้อสงสัยมากที่สุดคือ ผู้ตายเดินมาเสียชีวิตบริเวณดังกล่าวได้อย่างไร

ขณะที่ทางตำรวจได้ติดต่อไปหาแฟนของผู้เสียชีวิตที่ จ.ชัยภูมิ ทราบว่าผู้ตายลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมุ่งตรงมาที่พัทยาทันที ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย กระทั่งตำรวจโทรฯ ไปแจ้งว่าแฟนชาวแคนาดาเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้ตายเบื้องต้น มีประวัติเป็นโรคมะเร็ง และมีความจำหลงๆ ลืมๆ พร้อมร้องขอให้ตำรวจหาข้อสรุปสาเหตุการตายอีกครั้ง