วันที่ 16 ก.ค. ตำรวจ สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านรสปุ้ง หมู่ 4 ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่ามีชายคลั่ง เปลือยกายบุกเข้าบ้านที่บ้านหลังหนึ่ง หลังรับแจ้งตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านดุง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ก็ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายลุย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ยังอยู่ภายในบ้านของ นายทองใส เขียวรัตนตรัย โดยญาติๆ บอกว่า นายลุย ของขึ้น เพราะสักเสือเผ่นทั่วร่างกาย และมีอาการคลุ้มคลั่งร้องเสียงหลง คล้ายเสือโคร่งอยู่ภายในบ้านตลอดเวลา จากนั้นตำรวจจึงมองเข้าไปที่ช่องหน้าต่าง ก็พบว่า นายลุย เปิดแอร์ นอนเปลือยกายอยู่ในห้องนอน ตำรวจจึงเกลี้ยกล่อมอยู่นาน ก่อนจะยอมออกมามอบตัว

นายจักรพรรณ เขียวรัตนตรัย อายุ 32 ปี ลูกชายของเจ้าของบ้าน บอกว่า ขณะที่ตนและลูกๆ นั่งเล่นอยู่ที่กระท่อมหน้าบ้าน ปรากฏว่า นายลุย วิ่งไปทางหลังบ้าน เข้าไปแล้วล็อกประตูทันที ตนจึงรีบวิ่งไปบอกว่า เข้าบ้านผิดหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าได้ยินเสียง นายลุย ส่งเสียงร้องเหมือนเสือโคร่ง ตนจึงไม่กล้าเข้าไป จากนั้นเห็น นายลุย ไปอาบน้ำ แล้วเปลือยกายออกมา เข้าไปในห้องนอน เปิดแอร์นอนอย่างสบายใจ

สักพักวิ่งเปลือยกายเอาที่นอนหมอนมุ้งไปที่บ้านตน แล้วกลับเข้าไปที่บ้านอีกครั้ง พร้อมทั้งล็อกประตู ตนคิดว่าไม่น่าจะปกติแล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจ พอตำรวจมาถึง นายลุย ก็บอกว่า อย่าเข้ามาใกล้ ของกำลังขึ้น เท่าที่เห็น นายลุย สักยันต์ลายเสือเผ่นเต็มตัว น่าห่วงเพราะตนอยู่อีกหมู่บ้าน หากบุกเข้ามาอีก ห่วงยายและเด็กๆ ที่อยู่บ้านหลังนี้ วอนตำรวจดูแลให้ด้วย

ขณะที่น้าสาวของ นายลุย บอกว่า นายลุย เพิ่งออกจากคุกเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่ภายในบ้าน ช่วยล้างจาน ดูแลบ้าน ตั้งแต่ออกคุกมาก็อยู่บ้านดีๆ ไม่คิดว่าจะแอบไปเสพยาบ้า เพราะเห็นเขาอยู่บ้านตลอด เห็นอาการพูดคนเดียวและร้องเหมือนเสือโคร่งมา 2 วันแล้ว เชื่อว่าน่าจะเกิดจากอาการของขึ้น เพราะเขาเล่นของ สักยันต์ลายเสือเผ่นเต็มตัว แถมยังกินข่าดิบเพื่อระงับอาการของขึ้นด้วย เคยเป็นหลายครั้งแล้ว ตนไม่เชื่อว่าเสพยาบ้าแน่นอน

ต่อมา นายวีระพล รักษ์เสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท ได้เข้าไปสอบถาม นายลุย บอกว่า “ผมของขึ้น อย่าเข้ามาใกล้ ส่วนที่กินข่าดิบเพื่อระงับอาการของขึ้น ผมไม่ได้ไปเสพยา” นายวีระพล ถามว่าคลั่งแบบนี้เสพยาหรือเปล่า นายลุย ก็ยืนยัน ไม่ได้เสพยา ช่วยผมด้วย จากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก