เมื่อวันที่ 16 ก.ค. พ.ต.ต.นที จันทร์แสงสี สว.(สอบสวน) สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุตำรวจถูกยิงบาดเจ็บ บนถนนทรายทอง 5 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก นายเอกวิทย์ จันทวงษ์ ปลัด อ.สุไหงโก-ลก และกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุ พบรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กก 4447 ยะลา สภาพล้มตะแคงอยู่กลางถนนมีเสื้อเกราะ ตกอยู่ข้างรถจยย. และบริเวณผิวถนนพบรอยขูดเป็นทางยาว 3 เมตร กระจกมองข้าง ที่พักเท้ารถจยย.เสียหาย และยังมีกองเลือดจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่ ส.ต.ต.ธนกฤต ฤกษ์ดี อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ นปพ.สภ.สุไหงโก-ลก ถูกยิงเข้าชายโครงขวา 2 นัด พลเมืองดีนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ไปก่อนหน้านี้ แต่อาการสาหัสเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะ ส.ต.ต.ธนกฤต ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านจุดตรวจบ้านน้ำตก ต่อมาได้ฝากเวรไว้กับเพื่อนตำรวจด้วยกันโดยแจ้งว่าจะขี่รถจยย.ไปทำธุระในเขตเทศบาลเมือง ภายหลังเสร็จธุระได้ขี่รถจยย.จะกลับไปยังจุดตรวจบ้านน้ำตก ขณะมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คน ขี่รถจยย.ตามมาก่อนเร่งเครื่องประกบพอสบโอกาสคนร้ายที่ซ้อนท้ายชักปืนพกไม่ทราบขนาดออกมายิงใส่ รวม 4 นัดซ้อน ถูก ส.ต.ต.ธนกฤต 2 นัด บาดเจ็บรถจยย.เสียหลักล้ม ก่อนคนร้ายเร่งเครื่องหลบหนีไปทันทีโดยไม่ได้ลงมาแย่งอาวุธหรือเสื้อเกราะของส.ต.ต.ธนกฤต แต่อย่างใด

พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เนื่องจาก ส.ต.ต.ธนกฤต เป็นตำรวจน้ำดีเพื่อนพ้องรักใคร่ขยันทำงาน แต่มีประเด็นหนึ่งที่กำลังวิเคราะห์ความเป็นไปได้ คือ ช่วงนี้มีงานแสดงสินค้าเทศกาลรายอในเขต อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งแต่ละคืนจะมีวัยรุ่นกลุ่มนักซิ่งออกมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม จึงให้เจ้าหน้าที่สายตรวจคอยเฝ้าดูแลตักเตือนไล่กลับบ้านอยู่บ่อยครั้ง อาจสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มนักซิ่ง เก็บความโกธรแค้นไว้เมื่อมาพบ ส.ต.ต.ธนกฤต ขี่รถจยย.คนเดียวตามลำพังจึงก่อเหตุดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางโดยรอบจุดเกิดไว้เป็นหลักฐานติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุดต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่ามาจากปมเหตุใด แต่เจ้าหน้าที่จะนำหัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในบาดแผลของ ส.ต.ต.ธนกฤต ไปทำการตรวจสอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และไล่กล้องวงจรปิด อย่างละเอียดเพื่อหาเบาะแสคนร้าย แต่ที่แน่ชัดคือไม่ได้เกิดจากปัญหาความมั่นคง เนื่องจากคนร้ายไม่ได้ก่อเหตุซ้ำรวมถึงแย่งชิงอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลบหนีไปเหมือนทุกครั้ง คงต้องขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ จึงสามารถค่อยๆตัดทิ้งประเด็นต่างๆออกไป