เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. ว่า คราวนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ คาดหวังประเด็นที่จะอภิปราย จะต้องเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ปากท้อง โดยเฉพาะวิกฤติน้ำมันแพง แต่กลับไม่มีชื่อ รมว.พลังงานอยู่ในญัตติของพรรคฝ่ายค้าน น้ำมันแพงเป็นต้นเหตุสินค้าแพงกองทุนน้ำมันที่ทำหน้าที่ช่วยพยุงราคาน้ำมันสถานะติดลบ เสียหายกว่าแสนล้านบาท ประชาชนเติมน้ำมันทีกระเป๋าแทบฉีก เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ประชาชนคาดหวังฟังอภิปราย

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคกล้าเคยตั้งข้อสังเกตเรื่องน้ำมันแพง โดยเฉพาะค่าการกลั่นที่สูงผิดปกติ ทำให้โรงกลั่นฟันกำไรใน 3 เดือนแรกของปีนี้ สูงกว่ากำไรของปีที่แล้วทั้งปี โดยเราเสนอทางแก้ ทั้งการลดและกำหนดเพดานค่าการกลั่นรวมถึงการเก็บภาษีลาภลอย เพื่อนำเงินมาช่วยกองทุนน้ำมันที่ติดลบกว่าแสนล้าน แต่จนบัดนี้ กระทรวงพลังงานยังไม่ชัดเจน เดือนก่อนบอกโรงกลั่นจะให้เงิน 24,000 ล้านบาท มาเดือนนี้ยอดลดลงมากและเคลียร์กันไม่ลงตัวเสียที

“พรรคกล้าเคยเสนอให้ออกกฎหมายลาภลอยเหมือนกับที่ประเทศอื่นทำกัน มันจะชัดเจนกับทุกฝ่าย โรงกลั่นเป็นบริษัทมหาชนเขาต้องรับผิดชอบกับผู้ถือหุ้น ไม่ใช่มาขอบริจาคมากน้อย ตามแต่ต่อรองแบบนี้ ไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใส เรื่องสำคัญแบบนี้ แต่ฝ่ายค้านไม่ใส่ชื่อรัฐมนตรีพลังงานในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมขอให้ทุกฝ่ายทางการเมือง อย่าปล่อยให้ธุรกิจน้ำมันเป็นแดนสนธยาที่ไม่ใครกล้าแตะ” นายอรรถวิชช์ กล่าว.