เมื่อเวลา 21.06 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตอนหนึ่งว่า ขออภิปรายเปิดโปงมหากรรมสร้างเพื่อโกง มหากาพย์ผลาญภาษีประชาชน พังทลายชีวิตและความมั่นคงของผู้มีรายได้น้อยไปถึงอนาคต โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ภายใต้การดำเนินการของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งการเคหะฯ มีโครงการก่อสร้างไปแล้วเกือบล้านยูนิต งบลงทุน หลายแสนล้านบาท นายจุติเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2562 ก็เริ่มแต่งตั้งคนของตัวเองมานั่งเป็นบอร์ดการเคหะฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.62 


“เมื่อไล่ดูท่านตั้งคนสนิทคนหนึ่งที่ไม่ชอบมาพากลอักษรย่อ นาย จรร. และนาย จรร.คนนี้ มีประวัติโชกโชนด้านการเงิน เป็นนักปั่นหุ้น นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้วหลายบริษัท และเป็นคนสนิท คนใกล้ชิด แบบชนิดที่ว่าอยากได้เท่าไหร่บอกมา พี่จัดให้ และคนนี้สนิทกันตั้งแต่นายจุติ เป็น​ รมว.ไอซีที เมื่อปี 2553 โดยนาย จรร. เป็นที่ปรึกษา และ​ รมว.ไอซีที​ ขณะนั้น โครงการฉาวโฉ่คือโครงการการไปพัวพันการทุจิต 3จี ซึ่งท่านโยนเรื่องให้ลูกน้องไปหมดแล้ว แต่มาวันนี้เรื่องมันใกล้เคียงกัน ที่ตั้งคนสนิทเป็นบอร์ดการเคหะฯ และบอร์ดกำลังกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้สูญเสียผลประโยชน์ของชาติมากมาย” นายณัฐชา กล่าว

จากนั้นเวลา 22.08 น. นายจุติ ลุกขึ้นชี้แจงว่า ได้จดประเด็นที่ได้กล่าวหาหลายประเด็น จริงบ้างผิดจากข้อเท็จจริงบ้าง แต่ยืนยันว่าความรู้สึกที่ได้เป็นผู้บริหารกระทรวงนี้ อยากให้การเคหะฯ มีเปลี่ยนแปลง ตนสนับสนุนที่จะมีการยื่นให้​ ป.ป.ช.ตรวจสอบการบริหารงานที่คิดว่าผิดปกติ ซึ่งสิ่งที่ผู้อภิปรายพูดย้อนตั้งแต่ปี 2537 และ​ 2543 ซึ่งตนกำลังให้ผู้บริหารการเคหะฯ ไปค้นเอกสารภายในคืนนี้ เพื่อชี้แจงให้สภาเข้าใจ อย่างไรก็ตาม 90% ที่อภิปรายนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนตนเป็นรัฐมนตรี แต่ตนไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ เมื่อเข้ามาแล้วต้องแก้ไขปัญหาที่หมักหมม


นายจุติ กล่าวว่า ทั้งนี้เดือนแรกที่ตนเข้ามากำกับการเคหะฯ ได้รับรายงานจากคณะกรรมการการเคหะฯว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน​ (สตง.) ได้ตรวจสอบบัญชีการเคหะฯ และพบความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทลูก cemco ของการเคหะฯ และการจัดการทรัพย์สินที่มีปัญหา โดย สตง. ได้ส่งผลวิเคราะห์ พร้อมเสนอแนะให้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของหารเคหะฯ ทั้งนี้ตนยินยอมให้สภานี้ตรวจสอบเต็มที่และไม่ยอมให้ใครบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงขอใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบเอกสารใน 17 ประเด็นที่ผู้อภิปรายใช้ข้อมูลบิดเบือนจากความจริงเป็นอย่างมาก และทำให้การเคหะฯ​ เสียหาย รวมทั้งตนและรัฐบาลเสียหายด้วย


จากนั้นนายณัฐชา ลุกขึ้นประท้วงให้นายจุติ ตอบทันที เพราะมีตนเองเพียงคนเดียวที่อภิปราย แต่นายจุติ กล่าวยังคงย้ำว่าขอเวลารวบรวมเอกสารก่อน และยังย้อนด้วยว่า เมื่อปีที่แล้วเดือน​ ส.ค.64 นายณัฐชา ใช้ข้อมูลเอกสารเท็จในการอภิปรายกระทรวงกลาโหม และได้มีการแจ้งความ ทำให้นายณัฐชา ลุกขึ้นตอบโต้อย่างมีอารมณ์ว่า ถ้าตนถูกดำเนินคดีคงไม่มายืนอภิปรายอยู่ในวันนี้ ที่อ้างว่าใช้ข้อมูลเอกสารเท็จ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียกเลยแม้แต่ใบเดียว ถ้าตนผิดจริงและเท็จจริง กระทรวงกลาโหมคงไม่ปล่อยไว้แบบนี้ พร้อมท้าให้ฟ้องร้องได้เลย.