จากกรณีโซเชียลเผยแพร่คลิปเรื่องราวพิพาทระหว่างวัดบางสะแกนอก ย่านตลาดพลู และหญิงสาวผู้อาศัยในคอนโดฯ ใกล้เคียง เรื่องเสียงจากการสวดศพของทางวัด ส่งผลให้หญิงสาวทำงานไม่ได้ ก่อนจะมีชายคนหนึ่งพยายามอธิบายขอให้พระสวดงานศพครึ่งชั่วโมง จนเกิดการโต้เถียงกันนั้น

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่วัดบางสะแกนอก แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ นายประพันธ์ ฉากทองคำ อายุ 54 ปี ประธานชุมชนเรารักบางสะแก เปิดเผยว่า หลังเกิดปัญหาขึ้นจนไปถึงสำนักพุทธนั้น วัดกับชุมชนจะทำงานลำบากในเรื่องการใช้เสียงและประเพณี ส่วนตัวอยากหารือกับทางสำนักพุทธ เพราะถ้าแค่พูดคุยกับหญิงสาวที่ปรากฏในคลิปนั้นก็คงจบแค่การขอโทษ ซึ่งทางชุมชนก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่หนังสือคำสั่งของสำนักพุทธ จะทำให้ประเพณีสืบต่อไปได้อย่างไร จึงต้องมีผู้ปกครองของทางวัดหรือสำนักพุทธออกมาเคลียร์ เพราะเป็นผู้รับร้องเรียน

วิจารณ์ยับ!สาวบุกวีนวัด ลั่น ‘สวดศพ’เสียงดังจนทำงานไม่ได้

ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรม ทำให้วัดและชาวบ้านเหินห่างกัน ทางสำนักพุทธต้องชี้แจงให้ชาวบ้านรับรู้ เพราะเป็นหนังสือคำสั่งในหลายพื้นที่ ทั้งที่มีการจัดงานมานับร้อยปีและลดเสียงแล้วแต่ หากคอนโดฯ ยังให้ลดใช้เสียงอีก ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ซึ่งจุดยืนของพวกตนคือการรักษาประเพณี ศาสนา วัฒนธรรม ไม่ใช่การให้กลุ่มคนที่เพิ่งเข้ามาจำนวนน้อยมาร้องเรียนเช่นนี้ ต่อไปวัดทุกวัดก็คงเดือดร้อน

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีเพียงรองผู้อำนวยการเขตมาสอบถามเท่านั้น แต่ยังไม่มีการหาทางออก หากทางผู้อาศัยร้องเรียนเพิ่มเติมก็ร้องไป แต่ทางชุมชนจะยกระดับเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิในการนับถือศาสนาพุทธในช่วงเย็นวันอาทิตย์นี้ เพราะหากสำนักพุทธยังไม่ปกป้องวัด ชาวบ้านก็ต้องปกป้อง จะอารยะขัดขืนต่อไป ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าทางสำนักพุทธควรจะลงพื้นที่แล้วจะได้รู้ว่าทางวัดมีการช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิดอยู่ตลอด แต่ไม่มีการแถลงหรือออกข่าว ช่วงที่คอนโดฯ ลำบากหนักทางวัดยังไปพ่นฆ่าเชื้อให้ จึงอยากให้สำนักพุทธออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะการออกหนังสือคำสั่งนั้นไม่มีความเป็นธรรม นอกจากนี้อยากให้สำนักงานเขตเข้ามาดูแลมากกว่านี้ เพราะมีข่าวออกไปมากมาย อย่างไรก็ตาม ทางหญิงสาวคนดังกล่าวได้แสดงออกแล้วว่าจะเข้ามาขอโทษทางวัด แต่ตนอยากให้ออกมาขอโทษต่อพี่น้องชุมชนด้วย เพราะขณะนั้นเป็นการบุกไปในงานสวดศพ

นายประพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเหตุผลที่ไม่มีการเผยแพร่คลิปตั้งแต่ช่วงแรกเพราะคิดว่าเรื่องจบไปแล้ว แต่เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้หญิงได้ติดตามกับคอนโดฯ ในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งทางกรรมการก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า วัดก่อตั้งมาก่อน ตนมั่นใจว่าหญิงที่ปรากฏในคลิปเป็นผู้ร้องเรียนไปยังสำนักพุทธ เพราะทางนิติคอนโดฯ บอกว่ายังตามเรื่องอยู่ จึงต้องเผยแพร่คลิปเพื่อให้สังคมเห็นถึงข้อเท็จจริง ซึ่งที่ผ่านมาแม้ไม่ได้มีข้อตกลงระหว่างวัดกับทางคอนโดฯ แต่มีการหารือกันว่าหากมีปัญหาอะไรสามารถติดต่อทางวัดมาได้ ที่ผ่านมาก็มีการยืมเก้าอี้หรือโต๊ะของวัดไปใช้การประชุมของคอนโดฯ ก่อนสร้างคอนโดฯ ทางชุมชนก็ได้มีการทำแบบสอบถามแล้ว ซึ่งทางชุมชนไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด เพราะอยากให้มีความเจริญเข้ามา โดยวัดนี้อยู่มาถึง 400 ปีแล้ว แต่คอนโดฯ เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา