เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พนักงานสอบสวน สน.บางนา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางนา สำนักการโยธา สำนักงานสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ถนนสุขุมวิท แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ หลังมีช่างเสียชีวิตจากการทำงานเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้

สำหรับที่เกิดเหตุเป็นบ่อบำบัดน้ำเสีย มีลักษณะสีเหลี่ยม มีขนาดกว้าง 3×4 เมตร ลึกมากกว่า 4 เมตร อยู่ด้านหลังอาคารจอดรถของโครงการ ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการตรวจสอบโดยทำการเปิดฝาท่อบ่อบำบัดน้ำเสีย จากนั้นหย่อนสายเซ็นเซอร์ของเครื่องแก๊สดีเทคเตอร์ หรือเครื่องตรวจวัดปริมาณความเข้มข้นของแก๊ส ซึ่งจะหย่อนสายเซ็นเซอร์นั้นลงไปลึกจากผิวดินประมาณ 3 เมตร แต่จะอยู่เหนือผิวน้ำ 1 เมตร ซึ่งในบ่อมีประมาณน้ำสูง 80 ซม. สำหรับแก๊สที่ตรวจวัดหลักๆ จะวัดค่าออกซิเจน ไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2s) และก๊าซแอมโมเนีย ซึ่งก๊าซเหล่านี้หากมีปริมาณมากจะเป็นอันตรายต่อร่างกายเป็นเหตุให้หมดสติหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 20 นาที พบว่าเครื่องตรวจส่งเสียงดัง หมายความว่า ระดับความเข้มข้นของปริมาณก๊าซที่อยู่ด้านล่างส่งผลอันตรายถึงชีวิต วัดค่าความเข้มออกซิเจนในบ่อดังกล่าวได้ 19.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปกติมนุษย์สามารถต้องใช้ค่าออกซิเจน ร้อยละ 21 ในการหายใจ

ช็อก!ชาย 4 คนตกท่อกลางกรุง สาหัสหนัก สังเวยแล้ว 2 ศพ

พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิชย์ ผกก.สน.บางนา เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่คาดว่าจะเกิดเหตุ แนวทางการสอบสวนยังไม่ได้มีการให้น้ำหนักไปในเรื่องของไฟฟ้าช็อตหรือในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ต้องรอผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญในวันนี้จึงจะสามารถสรุปสำนวนในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิตได้ ส่วนการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบก่อนว่า ใครเป็นผู้สั่งการในการปฏิบัติงานครั้งนี้ เพราะเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าหัวหน้าผู้ควบคุมงานก็ร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย

มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย คือ 1.นายดิเรก อินทะรังษี อายุ 37 ปี ช่างอาคาร 2.นายวราวุฒิ อู่นาท อายุ 23 ปี ช่างอาคาร และ 3.นายทศพล ฟักสวัสดิ์ อายุ 26 ปี ช่างอาคาร

ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ทางญาติของนายดิเรก ผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ ด้านนายประสิทธิ์ ลุงของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเชิญดวงวิญญาณและรับศพหลานกลับบ้านที่ จ.น่าน หลานชายเพิ่งเข้าทำงานที่บริษัทนี้ได้เพียง 3 เดือน หลังจากกลับไปพักและทำการเกษตรที่บ้านเกิดหลังวิกฤติโควิด-19 ประมาณ 7 เดือน ก่อนจะกลับมาสมัครงานและได้งาน หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจทานข้าวไม่ลง ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาชี้แจงรายละเอียดอะไร มีเพียงบริษัทที่ทำงานบอกจะรับผิดชอบเต็มที่ สำหรับนิสัยของผู้ตายนั้นเป็นคนร่าเริง รับผิดชอบสูง ทำงานเลี้ยงลูก 2 คน ตัวเองก็ไม่คาดคิดว่าหลานจะจากไปเร็วขนาดนี้