เมื่อเวลา 18.00 น.​ วันที่ 22 ก.ค.​ ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวแชตไลน์ใบเสร็จรับเงินเดือนของ ส.ส. กลุ่มพรรคเล็ก จะผิดจริยธรรมนักการเมืองร้ายแรงหรือไม่ ว่า ขอไม่ตอบ เพราะหากนำข่าวลือมาถาม ตนไม่กล้าที่จะตอบในประเด็นนี้ และตนยังไม่ทราบเรื่อง

เมื่อถามย้ำว่าในทางกฎหมายหากมีการรับเงินจริง เกิน 3,000 บาท ถือว่าผิดกฎหมายใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกคนรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาถาม คนทั้งประเทศก็รู้

เมื่อถามถึงข้อสงสัย ถึงการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลไม่เคยคิดที่จะใช้กลไกของรัฐบาล เนื่องจากมีคนสงสัยในเรื่องนี้จำนวนมาก ซึ่งก็ได้ยินชัดเจนแล้วว่าผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ อย่างแน่นอน ส่วนสำนักงานกฤษฎีกาจะศึกษาเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ แต่ยืนยันได้ว่ารัฐบาลไม่ได้มอบหมาย

เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวหรือว่าจะกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเห็นข่าวนายสมศักดิ์​ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้ออกมาแสดงความเห็นและตนก็ไม่รู้เรื่องมาตั้งแต่ต้นว่าจะหาร 100 หรือหาร 500 และความเป็นไปได้อาจจะมี แต่ขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนไปแล้ว แต่หากจะมีก็สมมุติว่า เมื่อร่างกฎหมายลูกเสร็จ ก็จะต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดู ภายใน 15 วัน และ​ กกต. จะต้องตอบกลับมาภายใน 10 วันว่าเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งหากไม่เห็นชอบในประเด็นดังกล่าว ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 บัญญัติว่า รัฐสภาต้องพิจารณาภายใน 30 วัน หลังจากนั้น ซึ่งหากพิจารณาแล้วก็อาจจะยืนตามเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนก็ได้ซึ่งความเป็นไปได้ก็จะเกิดตรงนี้ กับอีกตอนหนึ่ง คือ ไม่ติดใจอะไรกันแล้ว แต่พอถึงขั้นตอน ที่จะนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากมีคนไปส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งจะส่งอย่างไรยังนึกไม่ออก แล้วศาลรัฐธรรมนูญเห็นด้วย ก็จะเป็นไปได้ในอีกช่องทางหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่าหากกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว จะต้องกลับไปแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถกลับไปได้ เหมือนเมื่อปีที่ผ่านมาก็อาจจะต้องเสียเวลาไปอีก 1 ปี​ แต่ในส่วนการเลือกตั้งก็จะเดินหน้าต่อไป เพราะถือเป็นคนละส่วนกัน ไม่จำเป็นต้องรอ เพราะปลายเดือน​ มี.ค.66 สภาฯ​ ก็จะหมดอายุ และจะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ทุกอย่างต้องเดินไปตามขั้นตอน เมื่อถึงเวลานั้นจะดำน้ำลุยไฟอย่างไรก็เป็นไปตามเรื่อง.