เมื่อวันที่ 27 ก.ค. สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร่วมประชุมหารือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อบูรณาการด้านกฎหมายกรณีบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) โดยมีข้อสรุปว่า ก.ล.ต. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากกรณีดังกล่าวอาจมีความเสียหายกับประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับต้องพิจารณาว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายอื่นๆ หรือไม่อย่างไร นอกเหนือจากความผิดภายใต้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ที่ ก.ล.ต. มีอำนาจดำเนินการในฐานะผู้กำกับดูแล ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

“ซิปเม็กซ์” แถลงการณ์ระงับถอนเงินบาทสินทรัพย์ดิจิทัล ชี้เกิดปัญหาจากคู่ค้า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประชุมหารือร่วมกับ ก.ล.ต. นั้น เบื้องต้นจะมีการรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อพิจารณาว่ามีมูลเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่ และถ้ามีมูล เข้าลักษณะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนจะเสนออธิบดีเพื่อพิจารณามีคำสั่งให้สืบสวนแสวงหาพยานหลักฐานมาประกอบการพิจารณา หลังจากนั้นดีเอสไอจึงจะมีอำนาจที่จะแสวงหาพยานหลักฐาน เช่น อาจจะเรียกผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ ผู้เสียหาย หรือพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาให้ถ้อยคำ เพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่างขึ้น

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า หากมีความผิดทางอาญาเกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจก็จะอยู่ในข่ายที่ดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษได้ ส่วนการรับเป็นคดีพิเศษก็ขึ้นอยู่กับฐานความผิดว่าจะต้องเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษมีมติหรือไม่ ส่วนการเสนอให้อธิบดีมีคำสั่งให้มีการสืบสวนนั้น จะเร่งเสนอภายในวันนี้ เนื่องจากมีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก.