เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันผลการจับกุม นายอิฐษเรส ผ่องใส อายุ 32 ปี ที่อยู่ 42 หมู่ 6 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง คือ ยาบ้า 101 เม็ด ที่ผู้ต้องหาโยนทิ้งขณะหลบหนี รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สี แดง-ดำ ตรวจยึดได้บริเวณลานจอดรถเคหะดอนเมือง เสื้อยืด แขนสั้น คอปก สีฟ้า 1 ตัว กางเกงขายาว สีดำ 1 ตัว ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ในการปฏิบัติการตามหน้าที่

พล.ต.ต.พนัญชัย เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.ค. เวลา 14.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดฯ บริเวณทางเข้าโรงเรียนทองพูนอุทิศ ถนนพหลโยธินขาเข้า โดยมี ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ มายา เป็นผู้ควบคุมจุดตรวจจุดสกัดฯ โดยวางกำลังเจ้าหน้าเฝ้าสังเกตการณ์ และมอบหมายให้ ด.ต.กิตยุทธ เป็นคนเฝ้าระวังสังเกตการณ์ ก่อนถึงจุดตรวจได้พบเห็นชายไทย ทราบชื่อภายหลัง นายอิฐษเรส ผ่องใส ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สี แดง-ดำ ผ่านมา เห็นจุดตรวจ ชายดังกล่าวได้หยุดรถและเปิดใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขึ้น ด.ต.กิตยุทธ เห็นมีพิรุธสงสัย จึงเดินเข้าไปตรวจสอบ นายอิฐษเรส ได้กำไว้ในมือข้างซ้าย จากนั้นได้แบมือออกปรากฏพบว่าเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบภายหลังพบจำนวน 101 เม็ด จากนั้น นายอิฐษเรส ได้ทิ้งถุงดังกล่าว และฉวยโอกาสกระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนี จังหวะนั้น ด.ต.กิตยุทธ จึงกระโดดขึ้นซ้อนท้าย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 คันขับขี่ไล่ตาม มุ่งหน้าถนนรังสิต-ปทุมธานี เข้าเมืองปทุมธานี เมื่อ ด.ต.กิตยุทธ เห็นว่าจะไม่ปลอดภัยและไม่สามารถหยุดคนร้ายได้แน่ จึงได้ฉวยโอกาสกระโดดลงรถที่บริเวณสะพานปทุมธานี 2 จากนั้นคนร้ายได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไป จ.นนทบุรี

จากนั้น ด.ต.กิตยุทธ ขอกำลังสนับสนุน เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน ช่วยติดตามตัวคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามตัวอย่างกระชั้นชิดและทำการสืบสวน จนทราบว่า นายอิฐษเรส ผ่องใส เป็นผู้ก่อเหตุ และติดตามตัว ต่อมาวันที่ 27 ก.ค. ได้ติดตามไปที่เคหะดอนเมือง พบรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการก่อเหตุ จอดอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ โดยรถคนดังกล่าวมี นางสุวารี หงษ์คำ เป็นผู้ครอบครอง นางสุวารี แจ้งว่าได้ให้ นายสิทธิชัย ภาคนภา ซึ่งเป็นลูกชายเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถาม นายสิทธิชัย และได้ให้ นายสิทธิชัย ดูภาพวีดีโอเหตุการณ์ที่ปรากฎอยู่ตามข่าว ยืนยันว่าเป็น นายอิฐษเรส และรถจักรยานยนต์เป็นรถคันเดียวกันที่ได้ให้ นายอิฐษเรส ยืมไปใช้เมื่อ วันที่ 26 ก.ค. และให้ข้อมูลว่า นายอิฐษเรส หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณซอยสุขุมวิท 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนายอิฐษเรส ยืนอยู่บริเวณปากซอย สุขุมวิท 65 เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมพร้อมของกลาง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

สอบสวนนายอิฐษเรส ผู้ก่อเหตุให้การว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง ขณะเกิดเหตุตนไปรับยาเสพติดจากเพื่อนและกำลังกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจอดรถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจ กระทั่งพบยาเสพติด จากนั้นตนก็ขึ้นคร่อมรถจยย. โดยขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ตนคิดในใจว่าอยากจะหนีอย่างเดียวเพราะต้องดูแลเมียกับลูก เมื่อหนีรอดแล้ว ก็ได้มาพบข่าวตนปรากฎในทีวี กระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด.