กรณีพบศพหญิงสาวนิรนามอายุประมาณ 30-40 ปี ถูกฆ่าโหดมัดมือห่อศพทิ้งหมกพงหญ้าข้างถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร บริเวณบ้านขุมขี้ยาง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ทราบคือ น.ส.วาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาว จ.มุกดาหาร เป็นช่างเสริมสวย ก่อนเข้าจับคุมนายรณรัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เจ้าพนักงานสัตวบาล สำนักงานปศุสัตว์อำเภอแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร สามีที่คบหากันฉันสามีภรรยานานกว่า 1 ปี เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นก่อเหตุฆ่าภรรยาจริง สาเหตุเกิดจากการหึงหวง พูดคุยกันเกิดมีปากเสียงจึงบีบคอ เตะหน้าใช้ค้อนทุบหัวจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปทิ้ง ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

จับแล้ว!สัตวบาลมือทุบหน้าฆ่าสาวนิรนาม ทิ้งศพอืดริมถนนอ้างปมหึงหวง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจับกุมตัว นายรณรัฐ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังสอบปากคำที่สภ.หนองสูง จ.มุกดาหาร โดย พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมสอบ ใช้เวลานานกว่า 4 ชม. กระทั่งนายรณรัฐ ยอมรับสารภาพความจริงว่า ไม่ได้โทรศัพท์นัด น.ส.วาสนา ออกมา แต่ลงมือฆ่าในบ้านเช่าพื้นที่ บ้านคำชะอี ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ก่อนนำศพขึ้นรถมาทิ้งอำพรางที่พงหญ้าจุดพบศพ จากนั้นเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิทยา เย็นจิตร รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.หนองสูง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 คุมตัวนายรณรัฐ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเกิดเหตุที่นายรณรัฐ เช่าพัก

โดยการทำแผนวันเกิดเหตุ นายรณรัฐ ได้โทรศัพท์นัด น.ส.วาสนา ให้มาหานั่งดื่มเหล้าที่บ้านดังกล่าว ระหว่างนั่งดื่มกินเกิดทะเลาะมีปากเสียงกัน เนื่องจากต่างคนต่างระแวงหึงหวงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยนายรณรัฐ อ้างถูกผู้ตายตบหน้าก่อน ด้วยความโมโห จึงลุกขึ้นเตะที่หน้า 1 ครั้ง จนหน้าหงายแล้วขึ้นนั่งค่อมร่างใช้มือบีบคอจนแน่นิ่ง จากนั้นถลกเสื้อขึ้นมาคลุมหัวไว้ ก่อนนำเชือกมามัดมือไพล่หลัง และมัดขายึดกับคอเพื่อกดตัวให้งอ ก่อนนำตะปูมาตอกฝังไว้ที่หน้าผาก 2 ครั้ง แต่สามารถตอกเข้าเพียง 1 ดอก แล้วนำผ้าห่มมาคลุมศพเอาขึ้นกระโปรงหลังรถเก๋งขับออกไปทิ้งริมถนนตัดใหม่ สายนาไคร้-มุกดาหาร ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกันระหว่าง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กับ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร แล้วขับรถกลับมาบ้านแต่ไม่กล้านอน ไปขอนอนที่กองร้อย อส.และวันต่อมาเข้าไปเก็บข้าวของที่บ้านเกิดเหตุ และไปเช่าบ้านหลังใหม่ในตัว อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร กระทั่งเวลาผ่านมาหลายวันก็ถูกจับตัวดังกล่าว

พ.ต.อ.วิทยา กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายรณรัฐ รับสารภาพว่าคบหาไปมาหาสู่กันกับผู้เสียชีวิตฉันสามีภรรยามาประมาณ 1 ปีเศษ และที่ผ่านมาทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะต่างคนต่างระแวงหึงหวงกัน หลายครั้งทะเลาะเลิกกันแต่ก็กลับมาคบกันใหม่ ล่าสุดทะเลาะกันและแยกกันอยู่ โดยนายรณรัฐ อาศัยอยู่ที่บ้านเช่าหลังเกิดเหตุ ส่วน น.ส.วาสนา อยู่ที่ร้านเสริมสวยในตัว อ.หนองสูง วันเกิดเหตุ 31 ก.ค. นายรณรัฐ ชวนมาดื่มเหล้าที่บ้านเช่าจากนั้นทั้งสองคนทะเลาะกัน และลงมือทำร้ายร่างกายกัน ก่อนที่นายรณรัฐจะเตะและบีบคอจนแน่นิ่ง นำเชือกมามัด ถลกเสื้อขึ้นไปคลุมศีรษะ ใช้ตะปูตอกที่หัวซ้ำอีก และนำผ้าห่มมาห่อศพนำไปทิ้งบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากทำแผนเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และเคลื่อนย้าย ปิดบัง ซ่อนเร้นศพ

พ่อผู้เสียชีวิตวัย 69 ปี กล่าวว่า ลูกสาวคบหานายรณรัฐ มาประมาณ 1 ปี แต่ไม่ได้แต่งงานหรือจดทะเบียนสมรส เพราะทั้งสองต่างเคยมีครอบครัวมาก่อน ที่ผ่านมามีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และล่าสุดก็ลงไม้ลงมือจนมีการแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาลูกสาวบอกว่าจะไปทำงานที่ จ.สกลนคร ซึ่งก็โล่งใจคิดว่าคงไม่กลับมาคบกับนายรณรัฐ อีก กระทั่งมาทราบข่าวร้ายว่าลูกสาวถูกนายรณรัฐ ฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเสียใจอย่างมาก ส่วนตัวไม่ขออโหสิกรรม และไม่ให้อภัย ขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด