เมื่อวันที่ 29 ก.ค. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 2565 ซึ่งรัฐบาลจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ต่อมาเวลา 19.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงทำเนียบรัฐบาล วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี รถยนต์พระที่นั่งจอดเทียบหน้าตึกสันติไมตรี กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ตามลาดพระบาท ผ่านแถวผู้รอเฝ้าฯ รับเสด็จ ไปจนถึงที่ประทับ

นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใจความว่า

ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองพระบาท เนื่องในศุภมงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 ก.ค. ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาททรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาในงานสโมสรสันนิบาต ที่รัฐบาลได้จัดขึ้นเพื่อน้อมถวายความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันนี้

ด้วยน้ำพระราชหฤทัยและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นที่จะบำรุงอาณาราษฎรใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารให้ได้พำนักอาศัยด้วยความสุขสวัสดิ์ และความวัฒนาสถาพรแก่ราชอาณาจักร ทั้งยังได้พระราชทานโครงการพระราชดำริน้อยใหญ่อันเป็นประโยชน์อเนกอนันต์ ตลอดจนพระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเพื่อดับความทุกข์ร้อนและบรรเทาเภทภัยนานา พระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ได้ประจักษ์ชัดแจ้งแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และได้สถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง

ในมหามงคลสมัยนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชานุญาต ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล อีกทั้ง พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลรักษาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ พระบรมเดชานุภาพและพระบารมีแผ่ไพศาล มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสฤษดิ์ดั่งพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรชาวไทย ตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

จากนั้นวงดุริยางค์กรมศิลปากรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบแล้ว นายกรัฐมนตรีนำผู้ร่วมงานกล่าว “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง นายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการแสดงเฉลิมพระเกียรติชุด “อาศิรวาทราชสดุดี” โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นการแสดงถึงความงดงามประณีตในรูปแบบนาฏศิลป์จารีตประเพณี (ราชสำนัก) ที่ได้รับการสืบทอดกระบวนท่ารำ การขับร้องและท่วงทำนองเพลงเป็นแบบแผนมาแต่โบราณสืบมาจนปัจจุบัน การแสดงนำมาเรียงร้อยปรับแต่งขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะ โดยเริ่มจากพระอิศวรเทพเจ้า พร้อมพระอุมาภัควดี นำขบวนพราหมณ์และพราหมณี ซึ่งเป็นผู้ทรงศีล สะอาด บริสุทธิ์ทั้งกายและใจ ออกมาร่ายรำเพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ด้วยเพลงหน้าพาทย์ดำเนินพราหมณ์

จากนั้น ขับร้องบทประพันธ์ด้วยเพลงขับไม้บัณเฑาะว์ ต่อด้วยเพลงหน้าพาทย์ตระนิมิตล้วน เป็นเพลงหน้าพาทย์ที่มีกระบวนท่ารำสืบทอดมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จบแล้ววงดุริยางค์กรมศิลปากร บรรเลงเพลงสดุดีจอมราชา 2 จบ โดยผู้ร่วมงานได้ร่วมขับร้องเพลงสดุดีจอมราชาเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อได้เวลาอันสมควร นายกรัฐมนตรีและภริยา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ ส่งเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ รถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เชิญพระราชวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ประธาน/รองประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หัวหน้าส่วนราชการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภา

หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ คณะบดีคณะทูต เอกอัครราชทูตอาวุโสประจำภูมิภาคต่าง ๆ เลขาธิการ ESCAP ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ พร้อมคู่สมรสเข้าร่วมในงานสโมสรสันนิบาตฯ ด้วย.