เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากญาติเด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกลุงลวงไปข่มขืนกลางทางระหว่างหมู่บ้านบ้านทับไทร ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จึงเดินทางไปยังบ้านของเด็กหญิงผู้เสียหาย พบญาติผู้เสียหาย เล่าว่า ด.ญ.เอ หลานสาว อายุ 13 ปี ได้มาเล่าว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่าน มาถูกนายบี (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี มีศักดิ์เป็นลุงของหลานสาว ลวงให้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยได้บอกว่าจะพาไปซื้อของที่ร้านค้า เมื่อออกจากบ้าน 100 เมตร ให้หลานสาวยืนรออยู่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน แล้วขับรถไปซื้อเบียร์ที่ร้านค้า 3 ขวด แล้วย้อนมารับหลานสาวซ้อนท้ายออกไปนอกหมู่บ้านอีกครั้ง ระหว่างนั้นนายบีได้กินเบียร์มาตามทางจนหมด

ญาติผู้เสียหาย เล่าต่อว่า จากนั้นนายบีพาหลานสาว มาหยุดกลางทางแล้วบังคับให้น้องนอนลงกับพื้นดิน ก่อนถอดเสื้อผ้าออกลงมือข่มขืน 2 ครั้งรวด เมื่อเสร็จกิจนายบีลงมาชำระร่างกายที่แอ่งน้ำ แล้วก็มานั่งพูดคุยกับหลานสาวอีก ก่อนจะลงมือข่มขืนซ้ำอีก 1 ครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง จากนั้นบังคับข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร ตั้งแต่เมื่อวานหลานสาวยังไม่ได้ถอดกางเกงในและเสื้อยกทรงเพราะมีชุดเดียว ขณะที่ถูกข่มขืนมีรอบเดือนมาพอดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบเรื่องจึงซื้อชุดชั้นในมาให้ 2 ชุด เพื่อไว้ใส่ ซึ่งครอบครัวของหลานสาวมีฐานะยากจน

ขณะที่ ภรรยาของนายบี เล่าว่า ค่ำวานนี้ สามีได้ขอหลับนอนกับตนเอง ซึ่งตนเองบอกว่ายังไม่มืดเลยและขอผลัดออกไปก่อน เนื่องจากไปทำงานรับจ้างเหนื่อยล้าจากการทำงาน สามีไม่พอใจจึงออกจากบ้านไป ยอมรับว่าสามีติดเหล้าและเสพยาบ้า มารู้อีกทีสามีลวงหลานสาวตนเองไปข่มขืน รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ส่วนเพื่อนของผู้เสียหายที่บ้านอยู่ติดกัน กล่าวว่า รู้สึกกลัวมากเพราะไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน เคยดูแต่ในข่าว นอกจากนี้คนก่อเหตุยังเคยมาเล่นกับตนเองด้วย รู้สึกสงสารเพื่อนมากที่ถูกข่มขืน

ด้าน พ.ต.ต.ธีรพงศ์ พินิจมนตรี สว.(สอบสวน) สภ.นาดี ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ได้นำต้วผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลกบินทร์แล้ว และผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ได้ข่มขืนแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และพรากเด็กไปเสียจากบิดามารดา ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การปฏิเสธและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ