เมื่อวันที่ 31 ก.ค. รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน (สกอ.) มาถึงที่เกิดเหตุเครื่องบินนกแอร์ไถลรันเวย์ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จะดำเนินการตรวจสอบอุบัติเหตุทั้งหมด จากนั้นจึงจะสามารถให้เคลื่อนย้ายเครื่องบินลำเกิดเหตุออกจากจุดเกิดเหตุได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บริเวณจุดเกิดเหตุนั้นไถลออกไปไกลจากรันเวย์พอสมควร และพื้นที่ค่อนข้างอ่อน และเปียก ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาพอสมควรในการเคลื่อนย้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินว่าต้องใช้เวลานานเท่าใด เพราะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินขนาดใหญ่แต่ยังใช้เวลาเกือบ 3 วันในการเคลื่อนย้าย และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เป็นท่าอากาศยานขนาดเล็ก จึงอาจจะมีอุปกรณ์ไม่ครบเท่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า คงต้องรอการประเมินในบ่ายวันนี้ (31 ก.ค.) ว่าจะต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้ายนานเท่าใด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในวันที่ 1 ส.ค.65 เพิ่มอีก 1 วัน อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 ส.ค.นี้ กพท. จะเชิญทางสายการบินนกแอร์ประชุมหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการดูแลผู้โดยสาร และปัญหาต่างๆ ว่าสาเหตุใดถึงไม่สามารถนำผู้โดยสารลงมาจากเครื่องได้ทันที และหลังจากนี้เมื่อสายการบินนกแอร์มีเครื่องบินเสียหาย 1 ลำ จะบริหารจัดการการให้บริการเส้นทางทั้งหมดอย่างไร

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนกรณีที่มีหลายคนตั้งคำถามว่า ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะมีส่วนต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่นั้น ประเด็นนี้คงต้องรอผลการสอบสวนอุบัติเหตุ ของ สกอ. ว่า สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เครื่องบินนกแอร์ลื่นไถลมาจากปัจจัยใด มาจากนักบิน หรือสนามบิน หากรันเวย์ของสนามบินมีระบบระบายน้ำไม่ดี หรือรันเวย์สกปรกมีคราบยาง ก็จะต้องดำเนินการบทลงโทษตามประกาศ และกฎระเบียบของ กพท. เรื่องมาตรฐานสนามบินต่อไป.

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก “Warangkhana Wongchai”