เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุม ครม.ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมายังตึกสันติไมตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เดินเข้ามาพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนพากันเข้าไปยังห้องโถงตึกสันติไมตรี ภายหลังมีกระแสข่าวลือเรื่องปรับ ครม.จากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รับปาก ส.ส.กลุ่มปากน้ำว่าจะจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีให้ จนสร้างความไม่สบายใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงขนาดงดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีการเปิดตัวพรรคการเมืองหลายพรรคในช่วงนี้ จะกระทบต่อพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนยิ่งมีทางเลือกเท่าไหร่ ก็จะเป็นประโยชน์มากเท่านั้น พรรคการเมืองทุกพรรค จะได้ขยันสร้างนโยบายดีๆ มาให้ประชาชนพิจารณา ตนถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 ที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่า ขึ้นอยู่กับรัฐสภาที่ต้องประชุมกันให้จบวาระ 3 ก่อน จากนั้นเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายทำหน้าที่ให้ครบสมบูรณ์ ก่อนส่งไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวยังยืนยันสูตรหาร 500 ย้อนแย้ง และถ้าตามสูตรคณิตศาสตร์ตัวเลขที่ออกมา เห็นได้ชัดมีผลกระทบมากมาย ส่วนประเด็นมีกระแสข่าวการแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพื่อกลับไปใช้บัตรใบเดียวนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในข้อเท็จจริงของพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีเรื่องบัตรใบเดียวแน่นอน เมื่อเราแก้รัฐธรรมนูญ เป็น 2 ใบแล้ว เราจะไม่กลับไปอีก เหตุผลได้พูดคุยในสภากันมากมาย

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ปฏิเสธตอบคำถามสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน กลุ่มนายสมศักดิ์ เตรียมย้ายพรรคหรือไม่ โดยระบุว่า “อย่าเพิ่งถามอย่างนี้ มันเร็วไปมาก เอาว่าวันนี้ให้เดินไปด้วยความเรียบร้อย”