เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม ตามที่กรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาแล้วเสร็จ มีสาระสำคัญคือการให้มีกำหนดระยะเวลาการดำเนินการในทุกขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า แต่การประชุมพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากมีสมาชิกรัฐสภา และ กมธ.ต่างสงวนความเห็นเพื่ออภิปรายในทุกมาตรา จำนวน 12 มาตรา ในร่างกฎหมายดังกล่าว

ขณะเดียวกันยังติดปัญหาเรื่ององค์ประชุมโหรงเหรง การจะลงมติแต่ละมาตราต้องเสียเวลานานมากในการรอสมาชิกมาแสดงตนจนครบองค์ประชุมนานร่วม 25-30 นาที และแต่ละมาตรามีองค์ประชุมผ่านแบบใจหายใจคว่ำ เกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุม 364 คน ไปเพียง 2-3 เสียง เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง เพิ่งพิจารณาได้เพียง 5 มาตราเท่านั้น

ทำให้นายชวนต้องกระตุ้นตลอดเวลา ขอความร่วมมือให้สมาชิกรัฐสภาช่วยเข้าห้องประชุม และคนที่อยู่ในห้องประชุมขอให้ช่วยกดบัตรแสดงตน ส่วนผู้ไม่เข้าประชุมให้ระวังตอนหาเสียงจะถูกคู่แข่งนำชื่อไปประจานความไม่รับผิดชอบ ขอให้ระวัง วันนี้ไม่เกิด วันหน้าเกิด ประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิเปิดเผยข้อมูล ทั้งคำพูดและการลงมติในสภาไม่เป็นความลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในห้องประชุมยังไม่ดีขึ้น สมาชิกยังอยู่บางตา โดยเฉพาะมาตรา 8 ที่รอสมาชิกมาแสดงตนถึง 30 นาที ก็ยังไม่ครบองค์ประชุม ขาดสมาชิกกว่า 30 คน โดยเฉพาะโซนที่นั่ง ส.ส.พลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย นั่งกันอยู่แค่พรรคละ 3-4 คนเท่านั้น จนนายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. ต้องหารือที่ประชุมว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ให้ยุบสภาไปเลย” ทำให้นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สวนคืนทันทีว่า “ก่อนจะยุบสภา ให้ยุบ ส.ว.ก่อน สมาชิกที่ขาดอยู่ตอนนี้ ให้ไปเรียกผู้นำเหล่าทัพมาประชุมด้วย”

ทำให้นายชวน ประธานในที่ประชุม ตอบกลับมาว่า “ให้ไปเรียกเอง” ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. สอบถามอยากทราบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะเข้าที่ประชุมได้เมื่อไร ถ้าเข้าวันที่ 3 ส.ค. ไม่ทัน จะเข้าในวันที่ 9-10 ส.ค. ได้หรือไม่ นายชวน ชี้แจงว่า ตั้งใจให้เข้าวันที่ 3 ส.ค. เพราะการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 9-10 ส.ค. เป็นแค่การคาดการณ์ ยังไม่ตกลงในวิป 3 ฝ่าย เพราะวันที่ 9 ส.ค. นั้น ส.ว.มีประชุม ส.ว. แต่ในวันที่ 4 ส.ค. จะนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อตกลงเรื่องวันประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้ง ทั้งนี้ไม่อยากให้สภาเสื่อมถ้าไปทำอะไรที่ไม่รับใช้สภา ไปรับใช้อะไรก็ไม่รู้ ทำให้สภาเสียหายและเสื่อมเสีย ตนไม่ต้องการ จึงขอให้ทุกคนอดทน ระหว่างนั้นยังขาดสมาชิกอยู่อีก 10 กว่าคน นายชวนจึงขอให้รอจนถึงเวลา 17.00 น. ถ้าองค์ประชุมไม่ครบจะปิดประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงาน กระทั่งเวลา 17.00 น. องค์ประชุมก็ยังไม่ครบ นายชวน จึงกล่าวว่า มีคนบอกให้ทดเวลาเจ็บ แต่เมื่อตกลงกันไว้ที่ 17.00 น. ต้องเกรงใจ ขณะนี้มีสมาชิกในห้องประชุม 357 คน ยังขาดอยู่ 7 คน ถ้าจะใช้เวลาทั้งหมดรอให้ครบองค์ประชุมตามมาตรานี้ที่รอมาตั้งแต่เวลา 16.07 น. ผ่านมา 53 นาที ขอบคุณทุกคนที่อดทนให้เวลา เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็หยุดเท่านี้ ขอปิดประชุมในเวลา 17.01 น.

โดยสาเหตุที่ ส.ส.พลังประชารัฐ และส.ส.เพื่อไทย อยู่ในห้องประชุมกันน้อย เนื่องจากไม่ต้องการให้องค์ประชุมครบ เพราะทั้งสองพรรคไม่ต้องการให้ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 จึงเล่นเกมไม่ให้องค์ประชุมครบ เพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พิจารณาเสร็จไม่ทันกรอบ 180 วัน ภายในวันที่ 15 ส.ค. นี้ ทำให้ร่างกฎหมายตกไป ต้องกลับไปใช้ร่างกฎหมายฉบับเดิมที่ ครม.เป็นผู้เสนอ โดยใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 100 ตามที่พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยต้องการ.