กรณีปรากฏเป็นข่าวว่า นางจันทา อุทธนผล มารดาของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผกก.โจ้” พร้อม น.ส.ธนัญญา น้องสาวของผกก.โจ้ เดินทางไปยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์คดีและขอให้ศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต ผกก.โจ้ คดีคลุมถุงดำทรมานผู้ต้องหายาเสพติดเสียชีวิตคาโรงพัก และศาลได้ลดโทษให้ ผกก.โจ้ เหลือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา

แม่ผกก.โจ้ยันลูกชายเสียใจ น้อมรับโทษจำคุกตลอดชีวิตไม่อุทธรณ์

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า โดยคดีนี้เป็นอำนาจอัยการสูงสุดพิจารณา เนื่องจากเป็นคดีที่ถูกทำให้เสียชีวิตระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานตามหน้าที่ ซึ่งทางอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นไม่ยื่นอุทธรณ์คดี แต่ยังมีข้อกฎหมายที่ควรรู้คือ โดยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 245 วรรค 2 บัญญัติไว้ว่า ศาลชั้นต้น มีหน้าที่ต้องส่งสำนวนคดีที่พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตไปยังศาลอุทธรณ์ ในเมื่อไม่มีการอุทธรณ์คำพิพากษานั้น และคำพิพากษาเช่นว่านี้จะยังไม่ถึงที่สุดเว้นแต่ศาลอุทธรณ์จะได้พิพากษายืนคดีจึงจะสิ้นสุด แต่หากกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับ ก็จะเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดในการพิจารณาว่ายื่นฎีกาหรือไม่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบคดีนี้อยู่ระหว่างการขยายระยะเวลาอุทธรณ์ โดยทางครอบครัวของ ผกก.โจ้ ยังไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ในวันนี้จึงเป็นการยื่นขอให้คดีถึงที่สิ้นสุดและยื่นต่อศาลไม่ประสงค์ที่จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป