เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด สรุปใจความสำคัญว่า ในประเทศพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,166 ราย รวมยอดสะสมของผู้ป่วยยืนยันมีจำนวน 4,598,725 ราย และมีผู้หายป่วยเพิ่ม 2,700 ราย รวมยอดสะสมของผู้หายป่วยแล้วมีจำนวน 4,545,856 ราย และมียอดสะสมของผู้เสียชีวิตเป็นจำนวน 31,492 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 29 ราย ซึ่งแม้ถือว่ายังทรงตัว แต่เป็นตัวเลขที่กระทรวงสาธารณสุขยังให้ความสนใจตลอด อีกทั้งมีผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ 21,377 รายโดยมีผู้ที่อาการหนักหรือปอดอักเสบ 905 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 476 ราย ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องมีการพิจารณา คือถ้าไม่เกินศักยภาพของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงของเครือข่ายภาครัฐและเอกชนในตอนนี้ซึ่งยังอยู่ที่ 17.1 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าค่อนข้างสบายใจได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่จำนวนผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา มีจำนวน 393 ราย แต่ตัวเลขวันนี้ (4 ส.ค.) มี 476 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับการประเมินประวัติติดเชื้อในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น จากแบบประเมินพฤติกรรมสุขภาพของนักเรียนในสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในสถานศึกษา พบว่าเป็นการติดเชื้อในโรงเรียน 5.66 เปอร์เซ็นต์ ไม่ทราบสาเหตุ 8.96 เปอร์เซ็นต์ เป็นการติดเชื้อจากบุคคลในบ้าน 14.93 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ มากที่สุด 70.45 เปอร์เซ็นต์

ส่วนอัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลเฉลี่ยอยู่ที่ 17.1 เปอร์เซ็นต์ และ รพ.สามารถขยายเตียงได้ อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ยาที่ภาครัฐจัดให้ยังมีศักยภาพในการรักษา ส่วนเรื่องยาโมลนูพิราเวียร์มีคุณภาพเพียงพอในการรักษาประชาชน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เน้นย้ำแล้วว่าให้ภาครัฐดูแลการให้ยาผ่านการสั่งยาของแพทย์ และรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ประชาชนไม่ควรซื้อยานอกจากที่ภาครัฐกำหนดไว้ให้ เพราะไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพของยา และยาไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือที่เรียกว่ายาเถื่อนอาจมีอันตรายต่อผู้ป่วยได้

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 ส.ค. จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อประเมินสถานการณ์และพิจารณามาตรการต่างๆ นำไปสู่การปฏิบัติโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ฝากขอบคุณประชาชน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโควิด-19 เป็นอย่างดี

โฆษก ศบค.กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ค.2565 ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการไทยแลนด์พาส มีตัวเลขเพิ่มเป็น 1.07 ล้านกว่าคน เพิ่มจากเดือน มิ.ย.2565 ซึ่งมี 760,000 คน ขณะเดียวกัน จากการสุ่มตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเดือน ก.ค.2565 ที่มี 770,614 คน จำนวน 15 เปอร์เซ็นต์ คือ 117,567 คน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่มีใบวัคซีนตามเกณฑ์ และมีใบรับรองการตรวจหาเชื้อ มี 13 คนเท่านั้น ที่ไม่มีใบวัคซีนและใบรับรองผลตรวจ ถือว่าน้อยมาก จึงขอให้มั่นใจในมาตรการคัดกรองคนเข้าประเทศ.