เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่รัฐสภา นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท และนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีผลการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างตัวแทนคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) มีมติให้นัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 10 ส.ค.65 เพียงวันเดียวว่า ตนรู้สึกเสียดายที่ผลมติวิปออกมาเป็นเช่นนี้ เพราะในการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ได้กล่าวในที่ประชุมว่าจะให้มีการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 9 ส.ค. แต่เพราะเหตุใดนายพรเพชรถึงกลับคำพูด เรื่องนี้นายพรเพชรต้องให้คำตอบกับสังคมให้ชัดเจนว่าเป็นเพราะอะไรแน่  

นายโกวิทย์ กล่าวต่อว่าการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติประกอบ (พ.ร.ป.) รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ดูเหมือนจะมีการเตะถ่วงให้ไม่ทันภายใน 180 วัน และทำให้กฎหมายตกไป ซึ่งจะต้องกลับไปใช้ร่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอมา ทำให้การทำงานกว่า 5-6 เดือนที่ผ่านมาสูญเปล่า เราในฐานะสมาชิกรัฐสภาต้องรับผิดชอบต่อกฎหมายนี้ร่วมกัน โดยเราจะไม่ยอมให้กฎหมายนี้ตกไป เพราะเลยกรอบระยะเวลาเช่นนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกตลอดระยะเวลาที่เราเป็น ส.ส.สมัยที่ 25 เพียงฉบับเดียว และอดีตที่ผ่านมาก็แทบจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ ตนไม่ได้ตีตนไปก่อนไข้ว่าจะถูกตีตกไป แต่มันส่งสัญญาณว่าจะเป็นเช่นนั้น  

 “กฎหมายจะผิดถูกอย่างไรจะเป็นสูตรหาร 100 หรือ 500 ผมไม่ได้สนใจ จะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าสมาชิกรัฐสภาจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร ทางวุฒิสภาจะต้องมีส่วนมาร่วมรับผิดชอบ ตอนนี้อาจมีสัญญาณจากบ้างพรรคที่มีความพยายามให้องค์ประชุมล่ม ซึ่งผมต้องขอให้นายพรเพชรพิจารณาในการเปิดประชุมร่วมวันที่ 9 ส.ค. ด้วย เพราะจะทำให้อัตราความเสี่ยงที่กฎหมายลูกต้องตกไปมีน้อยลง แต่หากเปิดวันที่ 10 ส.ค. เพียงวันเดียวมีโอกาสเสี่ยงสูงมาก ตอนนี้เหมือนมีสัญญาณร้องเพลงเดียวกัน ทั้งพรรครัฐบาลบางพรรค จับมือกับพรรคฝ่ายค้าน และวิปทั้ง 3 ฝ่ายที่ได้มีการประชุมกันก็ได้จับมือร้องเพลงเดียวกันอีก” นายโกวิทย์ กล่าว 

ทางด้าน นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ติดใจว่าจะหาร 100 หรือ หาร 500 ในขั้นตอนแรกพรรคไม่เคยเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่ประโยชน์ของประชาชน ตอนนี้เรามีความห่วงใยว่า ประชาชนจะมองการทำหน้าที่ของสภาอย่างไร เพราะมีเวลาถึง 180 วัน แต่กลับไม่ทำงาน การแก้ปัญหาตรงนี้เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาว่า ก่อนที่จะถึงวันที่ 15 ส.ค. ที่กฎหมายจะถูกตีตกไปนั้น เราได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่หรือไม่ เพราะการบรรจุระเบียบวาระ และนัดประชุมสามารถทำได้ทุกวัน แม้กระทั่งวันเสาร์ยังนัดประชุมได้เลย จะเป็นวันใดก็ได้ก่อนวันที่ 15 ส.ค.65 เรามาร่วมมือทำให้เสร็จ 

“กระแสข่าวที่ระบุว่า มีพรรครัฐบาลฮั้วกับพรรคฝ่ายค้านนั้น ขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เคยฮั้วกับใครทั้งนั้น การเปิดประชุมร่วมในวันที่ 10 ส.ค. เพียงวันเดียว ผมเชื่อว่าการพิจารณากฎหมายลูกไม่ทันแน่นอน เพราะฉะนั้นก่อนหน้านี้การนัดประชุมในวันที่ 9 ส.ค. เพิ่มอีกหนึ่งวัน ถือว่ามีความเหมาะสมแล้ว สำหรับพรรคภูมิใจไทย หากเป็นการหาร 500 เราอาจจะไม่ได้บัญชีรายชื่อเลย แต่เราพร้อมที่จะเดินหน้าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อผ่านสภาไปแล้ว ทาง กกต.จะว่าอย่างไรก็เป็นไปตามระบบของมัน แต่วิธีการปล่อยให้กฎหมายถูกตีตกไป จะทำให้ประชาชนมองว่าเราไม่ทำงาน” นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว