สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) เผยแพร่แถลงการณ์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (พีแอลเอ) เกี่ยวกับปฏิบัติการซ้อมรบบริเวณ “6 จุดยุทธศาสตร์” รอบเกาะไต้หวัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรก และจะเกิดขึ้นไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ ว่ามีเรือรบเข้าร่วมมากกว่า 10 ลำ และอากาศยานทางทหารมากกว่า 100 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ และเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์


ทั้งนี้ พีแอลเอยืนยันการยิงขีปนาวุธ “จำนวนหนึ่ง” ลงทะเลนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน โดยไม่มีการระบุรุ่นและจำนวนที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของไต้หวันรายงานว่า พีแอลเอยิงขีปนาวุธ “ตงเฟิง” จำนวน 11 ลูก

แผ่นป้ายระบุตำแหน่งการซ้อมรบของทัพปลดปล่อยประชาชนจีน 6 จุดล้อมเกาะไต้หวัน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน ชานกรุงไทเป


ด้านประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำไต้หวัน ประณามการซ้อมรบของพีแอลเอ และยืนยันความพร้อมของรัฐบาลไทเป ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน โดยนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2539 ที่พีแอลเอยิงขีปนาวุธลงทะเลนอกชายฝั่งของไต้หวัน

ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ประณามการซ้อมรบของพีแอลเอ ส่วนนายโนบุโอะ คิชิ รมว.กลาโหมญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลโตเกียวดำเนินการร้องเรียนตามช่องทางการทูตไปถึงรัฐบาลปักกิ่ง เนื่องจากมีขีปนาวุธของพีแอลเอ 5 ลูก ตกลงในทะเลที่ญี่ปุ่นถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ


ต่อมา กระทรวงกลาโหมของจีนออกแถลงการณ์ ประณาม “การสมรู้ร่วมคิด” ระหว่างสหรัฐกับไต้หวัน ที่นำไปสู่การยั่วยุครั้งนี้ มีแต่จะยิ่งทำให้ไต้หวันต้องเป็นฝ่ายเผชิญกับหายนะมากขึ้นเท่านั้น หมายถึงการที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เยือนกรุงไทเป เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นนักการเมืองระดับสูงของสหรัฐคนแรกในรอบ 25 ปี ที่เดินทางมายังไต้หวัน


ในอีกด้านหนึ่ง สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่แถลงการณ์ของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการ ว่าจับตาสถานการณ์ที่ช่องแคบไต้หวัน ด้วยความวิตกกังวลอย่างยิ่ง พร้อมทั้งยืนยันว่า ยูเอ็นยึดมั่นต่อหลักการ “จีนเดียว”.

เครดิตภาพ : REUTERS