เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ศ​.ดร.สุชาติ​​ ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางของดอดกเบี้ย และค่าเงินบาท ว่า 1.การที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ​ดำเนินการอยู่​ ทำถูกจังหวะและเวลาแล้ว​ แบงก์ชาติ​ต้องพยุงประเทศไทยให้มีการฟื้นตัว​ทางเศรษฐกิจ​ และรักษาเสถียรภาพทางด้านราคาและการเงินไปพร้อมๆ​กัน​ จึงต้องค่อยๆ ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินทุนระยะสั้น​ไหลออก ในขณะเดียวกัน​ ต้องรักษาให้เศรษฐกิจ​ไทยให้เจริญเติบโต​ ด้วยการส่งออกและท่องเที่ยว​ โดยดูแลค่าเงินบาทให้แข่งขันได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้น​เพื่อนำมาลงทุน​ และมาสร้างงาน

2.การฟื้นประเทศให้ไปได้ให้ยั่งยืน​ ต้องเพิ่มรายได้ของประเทศ​ คือการส่งออก (รวมต่างชาติ​มาเที่ยว)​ ซึ่งคิดเป็น​ 70% ของการผลิต​ (GDP​)​ รายได้นี้​จะมาเพิ่มการลงทุนและการจ้างงานของภาคเอกชน​ และนำมาจ่ายเป็นภาษีเพิ่มขึ้น แล้วรัฐบาลนำภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้​ มาลงทุน​ในส่วนของภาครัฐ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน​ แหล่งน้ำ ถนน รถไฟฟ้า​ และระบบ Digital ประเทศไทย​ จึงจะเจริญเติบโตแบบจีน​ได้ อาจเรียกว่า​การพัฒนาแบบก้าวกระโดด โดยเร่งการส่​งออกและการลงทุน​ ซึ่งอาจเจริญเติบโตได้ถึง​ 7-8% ต่อปี

3.แต่การที่รัฐบาลไปกู้เงินมาลงทุน​ โดยประเทศมีอัตราความเจริญเติบโตต่ำ (Low GDP​ growth​ rates) การลงทุนนั้นๆ ​อาจได้ผลตอบแทนไม่ทันหนี้ที่ต้องจ่าย​ คืออาจติดกับดักหนี้ได้​ เช่น​ที่เกิดขึ้นในศรีลังกา ลาว ปากีสถาน​ และแอฟริกา​หลายประเทศ

4.การที่รัฐบาลกู้เงินมาแจก​ มาซื้ออาวุธ​ ยิ่งไปกันใหญ่​ สามารถเปรียบเทียบกับครอบครัวที่มีรายได้น้อย​ ไปกู้เงินมาให้คนในบ้านกินใช้​ โดยไม่ทำงาน​ ตัวเองก็กู้เงินไปซื้ออาวุธ​ ประเทศจะเป็นหนี้มากมาย​ แล้วล่มจม​ได้

5.ใน​สมการ GDP​=C+I+G+E-M มี​ E (การส่งออกรวมต่างชาติ​มาเที่ยว) ตัวเดียวเท่านั้นที่เป็นรายได้ของประเทศ ที่เหลือ​ C​ (การบริโภค) I (การลงทุน) G (รายจ่าย​รัฐบาล) M (การนำเข้า​ รวมคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ)​ ทั้งหมดเป็นรายจ่าย​ ไม่ใช่รายรายได้​ คือ​เราต้องไปทำงานได้​เงิน (GDP)​ มาแล้ว​ จึงนำมาแบ่ง​ เพื่อไปกินไปใช้​ แล้วหมดไป​ มีเพียงตัว​ I (การลงทุน) ที่เป็นรายจ่าย​ แล้วสามารถสร้างผลผลิตได้มากขึ้นในอนาคต​

6.การสร้าง​ความเจริญ​เติบโตของชาติ​ (GDP​ ​growth) ด้วยการเร่งการส่งออก​ จะทำให้เพิ่มทั้งรายได้​และการออมของประเทศ ซึ่งจะมีผลให้ทั้งรัฐบาลและเอกชนมีเงินตนเอง​ มาเพิ่มการลงทุนได้มากขึ้น​ ทำให้ระบบเศรษฐกิจ​เติบโตสูงขึ้น​ สามารถยกระดับมาตรฐาน​การครองชีพประชาขน จากประเทศรายได้ปานกลาง​ เป็นประเทศรายได้สูง​ คือ​ รายได้ต่อหัวในปี 2020​ เกิน​ 12,696​ เหรียญ​$ ต่อคน​ต่อปีได้เร็วขึ้น (รายได้ต่อหัวของไทยปี​ 2020​ เป็น​ 7,233 เหรียญ​$​)

7.รัฐบาลปัจจุบันคิดผิดทาง​ตรงกันข้ามเลย​ แทนที่จะทำให้ประชาชนได้ไปทำงาน​ ไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้น​ โดยมีวันหยุด​เท่าที่จำเป็น แต่รัฐบาลกลับไปกู้เงินมาแจก มาอุดหนุน​รายจ่ายการบริโภค​ประขาชน​ ให้มีวันหยุดมากๆ​ เพื่อไปเที่ยว เฉกเช่น​พ่อแม่ไปกู้เงินมาให้ลูกๆ​ ไปกินไปใช้​ ไม่ช่วยกันไปทำงานหารายได้​และเก็บออมเงิน​ทอง ทำเช่นนี้​ครอบครัวจะมีแต่ล่มสลาย​เป็นหนี้เป็นสินล้นพ้นตัว วิธีคิดเช่นนี้ผิดมากจริงๆ​