สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า แม้นักวิทยาศาสตร์จะประเมินสถานะของพืชและสัตว์มากกว่า 147,000 ชนิด แต่ยังมีสายพันธุ์อีกหลายพันชนิดที่ถือว่า “ขาดข้อมูลมากเกินไป” สำหรับการประเมินอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้สายพันธุ์เหล่านั้นไม่รวมอยู่ในรายชื่อสายพันธุ์ที่ถูกคุกคามหรือใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งมีการแก้ไขข้อมูลทุกปีโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น)

ในบางกรณี การขาดข้อมูลนั้น ๆ คือสัญญาณอันตราย ซึ่งบ่งบอกว่าสายพันธุ์ดังกล่าวอาจหาพบได้ยาก เนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลง ตามข้อมูลของทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ที่ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพสิ่งแวดล้อม และภัยคุกคามโดยมนุษย์ เพื่อทำแผนที่รูปแบบภัยการสูญพันธุ์ในกลุ่มสายพันธุ์ที่ได้รับการประเมินแล้ว

ทั้งนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ทำการพิจารณาสายพันธุ์ที่ไม่ได้พิจารณา 7,699 สายพันธุ์ และประมาณการว่า สัดส่วน 56% ของจำนวนนั้น กำลังเผชิญกับสภาวะที่มีแนวโน้มจะทำให้พวกมันเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าสายพันธุ์ทั่วโลกที่ไอยูซีเอ็นจัดอยู่ในกลุ่ม “ถูกคุกคาม” เกือบ 2 เท่า

ขณะที่นายแจน บอร์เกลต์ ผู้เขียนงานศึกษา และนักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนอร์เวย์ กล่าวว่า ในบรรดาพืชและสัตว์ที่ “ขาดข้อมูล” จนตกอยู่ในอันตราย ส่วนมากเป็น “สายพันธุ์ขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล” ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกาตอนกลาง, มาดากัสการ์ และทวีปเอเชียตอนใต้”

“สภาพของธรรมชาติ อาจเลวร้ายกว่าที่พวกเราตระหนัก หากการคาดการณ์เหล่านี้เป็นจริง” บอร์เกลต์ กล่าวทิ้งท้าย.

เครดิตภาพ : REUTERS