เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ชลติชา สังข์จันทร์ หรือ “นุ๊ก” อายุ 29 ปี ลูกจ้างร้านขายของว่าได้ ถูก น.ส.บี (นามสมมุติ) ลูกสาวของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เจ้าแม่เงินกู้ชื่อดังใน จ.นนทบุรี ตบตีทำร้ายร่างกายขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน ภายหลังจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี แต่ฝ่ายคู่กรณีกลับไม่เกรงกลัวกฎหมาย มาข่มขู่ว่าระวังจะเจอดี เพราะรู้จักกับตำรวจหมดทั้งโรงพัก ภายหลังผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบยัง บ้านพัก เลขที่ 25/2 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี พบ น.ส.ชลติชา ในสภาพหน้าตาปูดบวม ก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

ก่อนหน้านี้ตนไปยืมเงินจำนวน 20,000 บาทจาก น.ส.เอ โดยยินยอมเสียดอกเบี้ยร้อยละ 40 (คิดอัตรา รายวัน 7,000 บาท รายเดือน 13,000 บาท) ที่ผ่านมาตนต้องจ่ายเงินให้อีกฝ่ายวันละ 350 บาท แต่ปรากฏว่าผ่อนมานานปีกว่าแล้วก็ยังไม่หมดหนี้ จนกระทั่งเมื่อ 2-3 ที่ผ่านมา ตนขาดส่งไป 3 วัน อีกฝ่ายจึงโทรศัพท์มาให้ไปขายยาบ้าหาเงินมาใช้คืน ซึ่งตนไม่ทำเพราะไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด

จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 6 ส.ค. เวลา 19.00 น. ขณะตนกลับจากรับจ้างขายของ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าปากซอยสุเหร่าพระนั่งเกล้า ได้เจอกับ น.ส.บี ลูกสาวของ น.ส.เอ ซึ่งเข้ามาถามว่า ทำไมไม่ส่งต้นรายวันให้ น.ส.เอ ตนจึงบอกกลับไปว่า ขอผลัดผ่อนไปก่อนเพราะว่าช่วงนี้หาเงินไม่พอเลี้ยงลูกเล็กอีก 2 คน ปรากฏว่า น.ส.บี ไม่พอใจตรงเข้ามาทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้มือจิกผมตบตีตนบาดเจ็บที่ใบหน้าและจมูก ชาวบ้านพยายามห้ามแต่ น.ส.บี ก็ยังไม่ยอมหยุด กระทั่งตบตีตนจนหนำใจแล้วก็เดินกลับเข้าซอยเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังเกิดเหตุตนเองจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ปรัชญ์ พิชัยรองสารวัตร(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.บี แต่ปรากฏว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยสุเหร่าพระนั่งเกล้า ต่างเกรงกลัวกลัวอิทธิพลของ 2 แม่ลูกรายนี้ จนไม่มีใครกล้าให้ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ขณะที่อีกฝ่ายเริ่มส่งคนมาคุกคามข่มขู่ว่าระวังจะเจอดี ทั้งยังอ้างด้วยว่า ฝ่ายตนมีเส้นสายรู้จักกับตำรวจหมดทั้งโรงพัก ทำให้ตอนนี้ไม่กล้าที่จะไปให้ปากคำแล้วเพราะกลัวจะโดนดักทำร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก น.ส.ชลติชา และกำลังเดินทางกลับ ปรากฏว่ามี ชายฉกรรจ์คนหนึ่งทำทีมาสอบถามว่าเป็นผู้สื่อข่าวสำนักไหน และมีตำรวจมาหรือไม่ ก่อนจะเรียกพรรคพวกมาดักรอที่ปากซอย โดยหนึ่งในนั้นถือมีดอีโต 1 เล่ม จ้องมองทำท่าจะเอาเรื่อง ซึ่งชายฉกรรจ์คนเดิมแกล้งพูดทีเล่นทีจริงว่า “…เห้ยย แค่เรียกออกมาเฉย ๆ ทำไมต้องถือมีดมาด้วยวะ…” ก่อนจะยิ้มเยาะ แล้วมองมาที่ผู้สื่อข่าวอีกครั้งก่อนจะหลบเข้าบ้านไป อย่างไรก็ตามการกระทำลักษณะดังกล่าว สอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหาย ที่ไม่กล้าเดินทางออกนอกบ้าน เพราะกลัวคนของอีกฝ่าย จะดักทำร้ายนั่นเอง.