สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า อิสราเอลและกลุ่ม “ปาเลสไตน์ อิสลามิก จีฮัด” (พีไอเจ) ที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส ต่างออกแถลงการณ์ ยืนยันการหยุดยิงในฉนวนกาซา ตั้งแต่เวลา 23.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (03.30 น. วันจันทร์ ตามเวลาในประเทศไทย) และต่างฝ่ายต่างขอบคุณรัฐบาลอียิปต์ ซึ่งทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
การสงบศึกดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อยุติความรุนแรงระลอกใหม่ในฉนวนกาซา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 ราย ถือว่ารุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงคราม 11 วัน เมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งทำลายพื้นที่ชายฝั่งของฉนวนกาซาเสียหายราบเป็นหน้ากลอง และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 ราย
ทั้งนี้ การสู้รบที่ปะทุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นศึกระหว่างกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) กับพีไอเจ โดยไอดีเอฟเปิดฉากโจมตีทางอากาศก่อน “เพื่อตัดวงจรภัยคุกคาม” หลังจับกุมสมาชิกพีไอเจได้หลายสิบคน ซึ่งอิสราเอลเชื่อว่า เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงหลายระลอกในอิสราเอล เมื่อช่วงต้นปีนี้ ที่มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 17 ราย
ขณะที่พีไอเจระดมยิงจรวดมากกว่า 600 ลูก ข้ามเขตแดนฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้ที่ไอดีเอฟสังหารแกนนำของพีไอเจได้อย่างน้อย 2 ราย แม้ระบบป้องกันไอเอิร์น โดม ของอิสราเอล สามารถสกัดการโจมตีของจรวดได้เกือบหมด แต่มีรายงานว่า จรวดบางลูกเดินทางไปได้ไกลถึงฝั่งตะวันตกของเมืองเยรูซาเลม
อย่างไรก็ตาม เพียง 3 นาที นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผล ไอดีเอฟรายงานว่า มีจรวดจำนวนหนึ่งลอยข้ามแดนมาจากฉนวนกาซา จึงต้องโจมตีทางอากาศตอบโต้ และย้ำว่า พร้อมดำเนินการอีก หากตกเป็นฝ่ายถูกโจมตีก่อน
ส่วนนายทอร์ เวนเนสลันด์ ผู้แทนพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลางของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยอมรับว่า การตกลงสงบศึกรอบนี้ “เปราะบางมาก” แต่ยังคงคาดหวังว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดอย่างเคร่งครัด.
เครดิตภาพ : REUTERS
