เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ร.ต.อ.เอกอมร สีสัน รอง สว.(สอบสวน) สภ.คูคต จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในตลาดสี่มุมเมือง อาคารเลขที่ 355/205-6 ซึ่งเปิดเป็นกิจการจำหน่ายพลาสติก ชื่อร้านเจ้ณีพลาสติก หมู่ 15 ต.คูคต อ.ลำลูกกา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง บริเวณหน้าร้านพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อนายสุพรชัย แซ่อึ้ง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 8 ต.บางซ้าย อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 2 นัด ชายโครงขวา 1 นัด อกซ้าย 1 นัด นอนหงายอยู่หน้าร้าน ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.ธรินทร์ญา เกียรตินิรุจ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 5 ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง

น.ส.น้อย ศรีบุญเรือง อายุ 27 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นลูกจ้าง ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเรียงของอยู่ในร้าน โดยคนตายซึ่งเป็นนายจ้างเพิ่งใส่บาตรเสร็จและกำลังจะเดินเข้าร้าน ก่อนผู้หญิงที่ก่อเหตุจะเดินมาถึงตัว จากนั้นเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่คนตายจะล้มลง ตนจึงเข้าไปห้ามว่าอย่ายิง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยิงรอบ 2 และ 3 ก่อนที่ตนจะวิ่งหนี และยิงซ้ำอีกรวมยิง 4 นัด ผู้ก่อเหตุตนไม่ทราบว่าเป็นอะไรกัน แต่จะมาเป็นแคชเชียร์ที่ร้านในเวลากลางคืน ส่วนสาเหตุก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ตนเป็นเพียงลูกจ้างทำงาน

สอบสวน น.ส.ธรินทร์ญา ผู้ก่อเหตุให้การว่า ตนกับผู้ตายเป็นแฟนกัน อยู่ด้วยกันมานาน 4 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกันมาหลายครั้ง ผู้ตายเคยทำร้ายร่างกาย เคยกระชากบีบคอหลายครั้ง ที่ผ่านมาตนช่วยเหลือเรื่องงานมาโดยตลอด โดนด่าว่าสารพัดจนเกิดความเครียดสะสม วานนี้ได้ทะเลาะกันและหนักสุดจนฝ่ายชายได้ไล่ตน จึงออกไปอยู่ห้องพักอีกที่หนึ่งและมีการโทรศัพท์ด่าทอกันอย่างรุนแรง โดยฝ่ายชายบอกว่าแน่จริงก็มา เช้านี้ตนจึงเดินทางมาพร้อมด้วยอาวุธปืนที่ซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตและนำมาก่อเหตุ ส่วนยิงไปกี่นัดตนจำไม่ได้ โดยตนตั้งใจจะมาฆ่าแฟนและยิงตัวเองตายตามด้วย แต่หลังจากยิงแฟนแล้วลูกน้องของแฟนได้มาแย่งปืนไว้ได้ ตนจึงไม่ทันได้ลั่นไก

ร.ต.อ.เอกอมร เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุกั้นพื้นที่ไว้เพื่อรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบวงจรปิดสอบปากคำพยาน และนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูส่ง รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.