เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 6 ส.ค.65 พร้อมด้วยสโลแกน “ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ไม่แล้งแน่” ด้วยความภูมิใจ ว่าไม่แล้ง มา 3 ปีแล้วนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความคิดที่ผิดพลาดของคนในพรรค พปชร.และรัฐบาลอย่างร้ายแรง ในฐานะที่เป็นคนอีสาน คนสุรินทร์ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประชาชนประสบปัญหาภัยแล้งมาโดยตลอด จ.สุรินทร์ และอีกหลายจังหวัดในพื้นที่อีสานใต้ ยังคงต้องเผชิญกับภัยแล้งเป็นปกติทุกปี

อย่าว่าแต่เพื่อใช้สำหรับการเกษตรเลย ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้ บางปี จ.สุรินทร์ ถูกปล่อยให้น้ำประปาขาดแคลน ประชาชนไม่มีแม้แต่น้ำใช้อุปโภคบริโภค ในตัวเทศบาลเมืองยังมีการตัดน้ำ หรือสลับเวลาเปิด-ปิด เพราะน้ำไม่พอจ่าย จนประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องลงทุนหาจุดเจาะน้ำบาดาลไว้ใช้กันเองอย่างตามมีตามเกิด บางพื้นที่ประสบปัญหาน้ำมากกว่าปกติ ช่วงฤดูน้ำมากรัฐบาลกลับไม่มีการวางแผนจัดการกักเก็บน้ำอย่างเป็นระบบ มีการปล่อยน้ำล้นห้วยให้มาท่วมที่นาของประชาชนจนเสียหาย แบบนี้หรือที่ พล.อ.ประวิตร กล้าบากหน้าลงพื้นที่ภาคอีสาน ไม่มีความละอายชาวนาที่จมน้ำตาเพราะน้ำท่วมที่นาหรืออย่างไร

นายชนินทร์ กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดจึงสะท้อนให้เห็นว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ไม่แล้งแน่” คือวาทกรรมซ้ำเติมคนอีสานที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยรับรู้ถึงปัญหาในเชิงพื้นที่ภาคอีสานอย่างแท้จริง ไม่เคยรู้ร้อน รู้หนาว กับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แบบนี้ยังกล้าที่จะส่ง ส.ส.เขตในนามพรรค พปชร. แต่ไม่รู้ปัญหาเชิงพื้นที่แบบนี้ ประชาชนจะหวังพึ่งพิงจากว่าที่ผู้แทนประชาชนจากพรรคนี้ได้อย่างไร

“ไม่รู้ปัญหา ไม่รู้ร้อนรู้หนาว และยังมีหน้ามาอวดอ้างว่าไม่แล้ง แต่มองข้ามปัญหาน้ำหลากท่วมนาข้าว แถมยังมีการประชาสัมพันธ์เป็นน้ำตกแห่งใหม่ชวนคนมาท่องเที่ยว ไม่เห็นหัวชาวนาที่โดนน้ำหลากทำลายผลผลิตทางการเกษตร คนในรัฐบาล 3 ป.ไม่มีความคิด ไม่มีตรรกะ แนวคิดแบบนี้ จะแก้ปัญหาประเทศให้ตรงจุดได้อย่างไร เพราะแค่คิดก็ผิดแล้ว” นายชนินทร์ กล่าว.