เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวชี้แจงและเน้นย้ำการจัดกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงหรือก่อให้เกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 ตามข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 47) และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2565 เรื่องห้ามการชุมนุม การทํากิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ฉบับที่ 15) ว่า พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นความสำคัญในการแก้ไขพื้นฟูสภาพเศรษฐกิจรวมถึงห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมโรคที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการกิจกรรมบางประการควบคู่กันไปด้วย

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงกำชับให้หน่วยงานในสังกัดและมอบหมายผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงโดยมอบหมายให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ลงไปกำกับดูแล พร้อมกำชับการปฏิบัติของทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้องซึ่งมีวิทยุสั่งการด่วนที่สุดแจ้งกำชับทุกหน่วยให้ความสำคัญในการตรวจสอบกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่อาจเกิดความเสี่ยงในการติดต่อสัมผัสและสามารถแพร่โรคได้ที่ยังคงจำเป็นต้องห้าม ดำเนินการและห้ามจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายที่จะพิจารณาในแต่ละกรณี

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอฝากให้ประชาชนศึกษากฎหมาย คำสั่ง ประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้อง สำหรับการจัดกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 ฉบับที่ 37, ฉบับที่ 46 และฉบับที่47 ยังคงจําเป็นต้องห้ามดําเนินการและห้ามจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเว้นแต่การจัดกิจกรรมนั้นได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายที่จะพิจารณาในแต่ละกรณีรวมถึงการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเป็นเสรีภาพของประชาชนที่ย่อมกระทำได้ภายใต้ขอบเขตการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยให้นำหลักเกณฑ์การจัดและการแจ้งการชุมนุมรวมทั้งหน้าที่ของผู้จัดและผู้ชุมนุมตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ โดยกรณีการชุมนุมตั้งแต่ 1 ส.ค.65 ให้นำหลักเกณฑ์การจัดและการแจ้งการชุมนุมหน้าที่ ของผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุม ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะมาใช้โดยอนุโลม พร้อมขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน สถานประกอบการ ปฏิบัติตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดตามที่ ศบค. คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ที่ได้ประกาศออกมา และติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศ คำสั่งข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวข้างต้นก็จะมีโทษตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 18 จำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.