เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ บช.ภ.1 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมตามยุทธการปราบไพรี ในห้วงระหว่างวันที่ 22 ก.ค.-5 ส.ค. 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการนโยบายของรัฐบาลที่เน้นย้ำประกาศสงครามกับยาเสพติด ควบคู่ปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ ทาง บช.ภ.1 จึงได้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ 9 จังหวัด จากการปิดล้อมตรวจค้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดคดีอาวุธปืน มีผลการจับกุม 571 ราย ผู้ต้องหา 568 คน ตรวจยึดอาวุธปืน จำนวน 518 กระบอก ในจำนวนนี้เป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 315 กระบอก, อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 203 กระบอก เครื่องกระสุนปืนจำนวน 711 นัด, คดีการพนัน จับกุม 737 ราย ผู้ต้องหา 922 คน, นอกจากนี้ยังจับกุมคดียาเสพติดจับกุม 1,580 ราย ผู้ต้องหา 1,593 คน ในจำนวนนี้เป็นยาบ้า จำนวน 439,389 เม็ด ยาไอซ์ 151.890 กรัม เคตามีน 35.190 กรัม และยาอีจำนวน 5.08 เม็ด, ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม 104 ราย ผู้ต้องหา 103 คน, คดีตามความผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จับกุม 501 ราย ผู้ต้องหา 502 คน, คดีค้างเก่าบุคคลตามหมายจับ จับกุม 1,138 ราย ผู้ต้องหา 1,094 คน และ คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุม 666 ราย ผู้ต้องหา 662 คน

หลังการแถลงข่าวทาง ผบช.ภ.1 ได้กล่าวถึงกรณีโรงน้ำแข็ง 2 แห่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงกัน ปมเหตุมาจากเรื่องส่งน้ำแข็งทับเส้นทาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุเบื้องต้น 13 ราย และตรวจยึดอาวุธปืน 6 กระบอก จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานส่งน้ำแข็งของทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วยโรงน้ำแข็งอโยธยา ซึ่งขายน้ำแข็งในเขต อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา และโรงน้ำแข็งพันล้าน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.อุทัย โดยโรงน้ำแข็งพันล้านได้มาวิ่งขายน้ำแข็งใน อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา และมีการขายตัดราคา จนมีปัญหากระทบกระทั่งกันเรื่อยมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่า, พกพาและยิงอาวุธปืนในที่สาธารณะ, และก่อความชุลมุน ซึ่งหากตรวจสอบพบความผิดเกี่ยวกับอั่งยี่ซ่องโจร จะมีการดำเนินการตรวจสอบอายัดยึดทรัพย์ อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีการกระทำความผิดหรือมีบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้ประชาชนชาว จ.พระนครศรีอยุธยา มั่นใจว่าจะกลุ่มแก๊งที่พกพาอาวุธปืนเช่นนี้จะไม่มีอีกต่อไป

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ได้ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ผกก.สภ.คลองห้า และนายอำเภอคลองหลวงกับพวก กรณีผับเช็คอินคลองหก ที่เปิดเกินเวลา ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 เข้ามาใช้บริการ และปล่อยให้มียาเสพติดเข้าไปแพร่ระบาด และส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญ รวมถึงใช้ใบอนุญาตผิดประเภทว่า ตามข้อเท็จจริงสถานบันเทิงแห่งนี้ได้ถูกทางตำรวจและฝ่ายปกครอง ร่วมกันเข้าทำการกวดขันจับกุมมาตลอด จนล่าสุด ผวจ.ปทุมธานี ได้มีคำสั่งปิดสถานบันเทิงแล้ว ยืนยันได้ว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปล่อยปละละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด ส่วนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ที่มีนโยบายในเรื่องสถานบันเทิงอย่างเข้มข้น ซึ่งทาง บช.ภ.1 ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องใบอนุญาต การเปิดให้บริการเกินเวลา การห้ามเยาวชนเข้าใช้บริการ และเรื่องยาเสพติด นอกจากนี้ยังได้เพิ่มการตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น ช่องทางหนีไฟ ทางเข้าออก โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย