เมื่อวันที่ 10 ส.ค. กลางดึกที่ผ่านมาขณะที่ ร.ต.อ.พินิจ แก้วบุญเรือง รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปราม ตั้งจุดตรวจคเนสิ่งผิดกฎหมายบริเวณท้ายซอยไปรษณีย์ ถนนศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้มีรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 3 ฒท 707 กรุงเทพมหานคร ขับขี่เข้ามาในด่าน เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณ เพื่อขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย

แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่ได้เหยียบคันเร่งขับรถแหกด่านหลบหนี และพุ่งชนรถยนต์ของชาวบ้านที่อยู่ด้านหน้าได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน ก่อนที่จะหลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าแยกศรีเทพา และเลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ ขาเข้ากรุงเทพฯ ก่อนที่จะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายอีก 1 คัน และขับรถหลบหนีต่อด้วยความเร็ว และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีบุญเรือง 1 มุ่งหน้าซอยอุดมเดช ซึ่งตลอดเส้นทางเป็นซอยแคบ ทำให้รถของผู้ก่อเหตุเกิดการเฉียวชน รถของชาวบ้านอีกหลายสิบคัน ก่อนออกมาเข้าถนนสุขุมวิท และกลับรถช่วงช้างสามเศียร และขึ้นทางด่วนพระราม 2 มุ่งหน้าบางบัวทอง-บางแค มุ่งหน้าจ.ปทุมธานี

ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ทางหลวงให้ปิดเส้นทางการจราจร แต่ผู้ก่อเหตุยังขับรถหนีด้วยความเร็วไม่ยอมหยุด และพุ่งชนไม้กั้นเก็บค่าผ่านทาง มุ่งหน้าเข้าเขตพระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนสามารถสกัดและหยุดรถของผู้ก่อเหตุเอาไว้ที่บริเวณถนนทางหลวง 3111 หมู่ 3 ต.บ้านม้า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังมุ่งหน้าเข้าเสนา เนื่องยางล้อรถผู้ก่อเหตุได้เกิดระเบิดขึ้น จึงทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้ จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงจอดข้างทาง ก่อนที่จะพุ่งตัวหลบหนีลงไปในน้ำ เจ้าหน้าที่จึงกระโดดลงน้ำไล่ติดตามจนสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฐพล อ้นอ่ำ อายุ 46 ปี และจากการตรวจสอบพบว่าในกระเป๋ากางเกงข้างขวามียาบ้าจำนวน 1 เม็ด

จากการสอบสวนนายณัฐพล ให้การรับสารภาพว่า ตนเสพยาบ้ามา 1 เม็ด ก่อนที่จะขับรถมาเพื่อขึ้นสินค้า และเก็บยาบ้าเอาไว้เสพตอนขากลับอีกจำนวน 1 เม็ด โดยเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ขณะที่ตนขับรถมาได้พบเห็นด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแกล้งทำใจดีสู้เสือโดยขับรถเข้าด่านมาแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั้งถูกเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อขอตรวจค้นในรถ ด้วยความกลัวว่าจะโดนจับ จึงได้รีบเหยียบคันเร่งแหกด่านหนีออกมาและไปเฉี่ยวชนรถชาวบ้านเสียหายอีกหลายคัน

ขณะที่ จ.ส.ต.อิทธิกร ธีรศรัณยานนท์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สำโรงเหนือ ได้เล่านาทีระทึกว่า โดยขณะเกิดเหตุได้ตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไล่ติดตามไป 2 คัน กับรถกระบะสายตรวจอีก 1 คัน ไล่ล่าไปจนถึงด่านเก็บเงินพระรามสองปรากฏ ว่ารถจักรยานยนต์ของตนน้ำมันหมด จนต้องจอดรถไว้แล้วขึ้นรถสายตรวจอีกคันไล่ล่าต่อ ซึ่งในใจยังคิดว่าในรถคันดังกล่าวจะต้องมีของผิดกฎหมายหรือยาเสพติดล็อตใหญ่ ทำให้คนขับซิ่งหนีการจับกุมได้ขนาดนี้ จนไล่ล่าไปถึงปลายทางพบว่าคนขับได้พุ่งตัวออกมาทางด้านข้างช่องกระจกพุ่งลงไปในคูน้ำข้างทาง จึงตัดสินใจกระโดดน้ำตามจับตัวเอาไว้ได้ โดยทำให้ทรัพย์สินที่ติดตัวตำรวจสายตรวจขณะนั้นไม่ว่าจะโทรศัพท์มือถือ กล้องติดอกของหลวง วิทยุสื่อสารและอื่นๆ จมน้ำพังเสียหาย แต่พอมาค้นรถและตัวผู้ต้องหากลับพบเพียงยาบ้าเม็ดเดียว ซึ่งเป็นระยะทางรวมเกือบ 100 กิโลเมตร หนีข้ามไปจนถึง 5 จังหวัด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุแล้วพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย และขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันผู้เสียหายหลายรายที่ถูกนายณัฐพล ขับรถเฉี่ยวชน ได้รับความเสียหายนับสิบราย ได้พากันเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อไป.