‘อีลอน มัสก์’ ประธานบริหารของบริษัทเทสลา ตัดสินใจขายหุ้นของเขาในบริษัทเทสลา คิดเป็นมูลค่า 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 244,470 ล้านบาท) โดยอ้างว่าเขาจำเป็นต้องขาย เพื่อเลี่ยงสถานการณ์การเร่งขายหุ้นของบริษัทที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่ยังมีคดีฟ้องร้องกับ ‘ทวิตเตอร์’ ซึ่งพยายามบีบให้เขาซื้อกิจการบริษัทในมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) ตามที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้

ชายที่รวยที่สุดในโลกเคยกล่าวไว้ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาว่าเขายังไม่มีแผนการที่จะขายหุ้น เทสลา เพิ่มเติม หลังจากที่เขาขายหุ้นมูลค่า 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 301,155 ล้านบาท) ของ เทสลา ออกไป

ผู้เชี่ยวชาญเคยวิเคราะห์ว่า ถ้าหาก มัสก์ แพ้คดีระหว่างเขากับ ทวิตเตอร์ และโดนบังคับให้ต้องจ่ายเงินซื้อกิจการของ ทวิตเตอร์ ตามที่ตกลงไว้ หรือต้องจ่ายเงินปรับ เขาก็อาจจะต้องขายหุ้มของ เทสลา ออกไปมากขึ้น

มัสก์ เคยตกลงการซื้อกิจการของ ทวิตเตอร์ เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา แต่เขาปฏิเสธในภายหลัง ทำให้ ทวิตเตอร์ ยื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งอาจทำให้ มัสก์ ต้องจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายมีกำหนดการขึ้นให้การในวันที่ 17 ต.ค. นี้

ตามข้อมูลการซื้อขายหุ้นครั้งล่าสุด มัสก์ ขายหุ้นออกไปราว 7.92 ล้านหุ้น ในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค. 2565 ทำให้ในปัจจุบัน เขามีหุ้นของ เทสลา อยู่ใรมือราว 155.04 หุ้น โดยมีมูลค่ารวมที่เขาได้รับจากการขายหุ้นล่าสุดประมาณ 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 ล้านล้านบาท) 

เครดิตภาพ : REUTERS