จากกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ความรุนแรงของชายที่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เดินถืออาวุธมีดเข้าไปไล่ทำร้ายประชาชนในร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ท้องที่ สน.บางยี่ขัน ซึ่งได้สร้างความแตกตื่นตกใจและหวาดกลัวว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย เพราะเพียงออกไปกินข้าวนอกบ้าน ยังต้องเสี่ยงตาย ทั้งที่อยู่ในเขตเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร

แต่แล้วล่าสุดในเฟซบุ๊กชื่อ ‘Mew’Ss Noppagar’ ก็ได้มีการโพสต์คลิปเหตุการณ์คล้ายกันอีกครั้ง เมื่อพบว่า มีชายคนหนึ่งกำลังใช้เหล็กแหลมแทงทะลุกระจกรถเมล์สาย 75 ทะเบียน 15-3307 กรุงเทพมหานคร หมายเลข 75-2 วัดพุทธ-หัวลำโพง จนได้รับความเสียหาย พร้อมข้อความว่า “ตกใจมากตอนแรกคิดว่าทะเลาะกันธรรมดา สักพักเริ่มเอาขยะจากข้างทางมาปาใส่กระจกฝั่งคนขับ ย้ำแล้วย้ำอีกจนกระจกแตก หลังจากนั้นก็เอาเหล็กยาว ๆ จากไหนไม่รู้มาทิ่มเข้ากระจก ข้างๆ ข้างหน้า ข้างหลัง และคนแถวนี้บอกมาว่า คนนี้เมายา ขาดยา เลยคลั่งมาก อยู่ดี ๆ ก็ไปคลั่งทำลายรถเมล์คันนี้เลย ก่อเหตุแบบนี้บ่อยครั้งแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้โดนจับได้รึยัง (08.08.65) #โรบินสันบางรัก”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณปากซอยเจริญกรุง 46 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ซึ่งถนนเป็น 2 เลนสวนกัน มีประชาชนเดินจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก เป็นช่วงด้านหน้าห้างสรรพสินค้า โรบินสัน สาขาบางรัก จนพบกับ นายนพเก้า จิรูปถัมภ์ อายุ 26 ปี คนโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว เปิดเผยว่า “….วันเกิดเหตุการณ์ ชายคนดังกล่าวอยู่ดี ๆ ก็ไปหยิบสิ่งของริมถนนไล่ปาเข้าใส่รถเมล์สาย 75 ก่อนจะใช้แท่งเหล็กพุ่งเข้าใส่รถเมล์ จนกระจกแตกตามภาพ ช่วงนั้นเป็นเวลาที่นักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญ กำลังเลิกเรียนด้วย ทำให้เด็กนักเรียนและประชาชนแถวนี้ตกใจพากันวิ่งหนีตาย หลังเกิดเรื่องไม่ทราบว่าทางตำรวจจับกุมตัวได้หรือไม่ แต่ชาวบ้านแถวนี้บอกว่า ยังพบเห็นชายคนดังกล่าวอยู่ จึงอยากให้ตำรวจคุมตัวไปรักษา ไม่อยากให้มาก่อเหตุอันตรายแบบนี้กับประชาชนอีก..”

ด้าน น.ส.มัลลิกา รตะจารุ อายุ 36 ปี กระเป๋ารถเมล์คันเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตอนรถเมล์มาติดขัดช่วงหน้าห้างพอดี คนขับบอกว่า มีคนขี่จักรยานมาชนท้ายรถเมล์ ลักษณะเหมือนเอาล้อแตะ ๆ ที่ท้ายรถ จากนั้นก็เริ่มเอะอะโวยวาย คล้ายคนสติเพี้ยน เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เริ่มหาสิ่งของมาปารถพร้อมกับตะโกนด่าหยาบคาย ทำให้คนผู้โดยสารเริ่มตกใจ จึงต้องเปิดประตูให้ลงจากรถ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะหลบหนีไป ภายหลังสำรวจพบว่าด้านข้างตัวรถได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะกระจกหลังแตกหลายจุด จึงรีบเข้าแจ้งความกับ สน.ยานนาวา และแจ้งเจ้าของอู่ให้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น อยากฝากถึงคนทำและญาติให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำไปด้วย

ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานขับรถเมล์ ให้ข้อมูลที่สำคัญว่า เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเราได้บอกให้ชายคนนี้ลงไปจากรถเนื่องจากเขาไม่ยอมสวมใส่หน้ากากอนามัย ทั้งๆที่ผู้โดยสารคนอื่นๆก้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับทุกคน เชื่อว่าทำให้ชายคนนี้ไม่พอใจและเสียหน้าด้วย พอเห็นรถเมล์เราวิ่งผ่านมาก็เอาสิ่งของมาขว้างปาทุบตีกระจก ที่สำคัญเหตุการณืที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เขาทำ แต่ในรอบ 3 เดือน โดนทำอย่างนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง ไปแจ้งความไว้แล้วแต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้.