เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 เปิดเผยถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ภาคประชาชนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ซึ่งห้ามบุคคลดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรมีสำนึกความเป็นคนไทยที่มองเห็นประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ ไม่ใช่มองแต่อำนาจผลประโยชน์ของตัวเอง และบรรดานั่งร้านทั้งหลายที่เชียร์ให้อยู่ในตำแหน่งเพียงเพราะต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นฉากกั้นความมูมมามแสวงประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชน
 
“พล.อ.ประยุทธ์ รู้ดีว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ส.ค.57 ดังนั้นวันที่ 24 ส.ค.65 คือวาระครบ 8 ปี ตามมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ อย่าไปอ้างหรือตีความแบบศรีธนญชัย ต้องนับวาระตามรัฐธรรมนูญปี 60 เพราะหากคิดแบบนั้นก็เท่ากับว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 57 ของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ การเป็นนายกรัฐมนตรีเถื่อนอย่างนั้นหรือ”
 
ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวว่า สิ่งที่สังคมประจักษ์แจ่มแจ้ง คือเอกสารบันทึกการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีที่ออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะในขณะนี้นั้น ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดถึงเจตนารมณ์ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนายมีชัย ฤชุพันธ์ุ ประธานกรรมการร่าง และนายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน สอดคล้องกันว่า การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสามารถนับรวมระยะเวลาก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 60 ได้ ฉะนั้นขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ และองคาพยพยอมรับ อย่าพยายามหาทางเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไปเพราะยิ่งทำให้ประเทศเสียหายและขัดแย้งไม่รู้จบ
 
อย่างไรก็ตามจากท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงความหงุดหงิดไล่ให้นักข่าวไปถามศาลรัฐธรรมนูญ อยู่บ่อยครั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีความคิดเสพติดในอำนาจ ไม่อยากลงจากหลังเสือ คงจะใช้ทุกวิถีทางและองคาพยพ ที่จะพาตัวเองพ้นสถานการณ์กระแสกดดันของประชาชนในเรื่องนี้
 
การเป็นผู้นำเผด็จการของ พล.อ.ประยุทธ์ คงจะหาเหตุหาข้อกฎหมายมาตีความข้างๆคูๆ เพื่อนั่งในตำแหน่งต่อไป แต่อยากจะบอกว่าเหล่านี้มีต้นทุน และเงื่อนไขที่จะสะสมรอวันประทุใหญ่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการที่ประเทศต้องเสียโอกาสในการได้รัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์และฝีมือมานำพาประเทศให้รอดภายใต้สภาพปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า ต้นทุนทางการเมืองที่ความขัดแย้งของคนในประเทศจะยังคงมีต่อไป การแบ่งฝ่ายแบ่งสีเสื้อจะขยายวงลามต่อไปเรื่อยๆ ความคิดก้าวหน้าและอนุรักษ์จะขัดแย้งจนยากประสาน ปัญหาสังคมที่จะทรุดทราม เสื่อมโทรม
 
นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่าขณะเดียวกันทางคณะกรรมการญาติพฤษภา35 และสภาที่ 3 เตรียมจัดเสวนา หัวข้อวาระ 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ถนนสามเสน ในวันอาทิตย์ ที่ 14 ส.ค.65 เวลา 13.30-16.30 น. โดยมีวิทยากรคือ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่า สตง. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง นายนิติธร ล้ำเหลือ และ ดร.เจษฎ์ โทณวณิก เพื่อต้องการให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการบิดเบือนของฝ่ายที่จะต้องการสืบทอดอำนาจต่อไป