เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.หนองคาย จึงอยากฝากให้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ว่ารถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย สร้างไปถึงไหนแล้ว ทำไมขาวหนองคายถึงต้องทำตาปริบๆ มองดูประชาชนลาวในกรุงเวียงจันทน์มีรถไฟความเร็วสูงใช้แล้ว ทั้งๆที่เริ่มโครงการขึ้นมาพร้อมๆกัน แต่รถไฟความเร็วสูงของไทยไม่ได้ไปถึงไหน เท่าที่ทราบเพิ่งเสร็จแค่ 3.5 กม. ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 2 ปีครึ่ง ราคาก็แพงมโหฬาร และคนไทยแทบไม่มีใครเคยเห็นเลย ในขณะที่ลาวใช้เวลาไม่ถึง 5 ปี เป็นระยะทางถึง 1,435 กม. ซึ่งเห็นได้ชัดถึงประสิทธิภาพการบริหารประเทศที่ต่างกัน อีกทั้งลาวได้ประโยชน์มากจากการขนส่งสินค้าแล้วหลายแสนตันและยังมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าเป็นล้านคน ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างใหญ่หลวงจากเรื่องนี้ ประชาชนขาดโอกาสในการเพิ่มรายได้อย่างน่าเสียดาย

ในอดีตหลังการรัฐประหาร พรรคเพื่อไทย และภาคธุรกิจได้จี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เร่งดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับอ้างว่าไม่มีเงิน ทั้งๆ ที่ความจริงรัฐบาลสามารถกู้เงินมาลงทุนได้ แต่พอมีวิกฤติการณ์โควิด กลับกู้เงินมาแจกอย่างมากมาย ทำให้หนี้ประเทศพุ่งขึ้นสูงถึงกว่า 10 ล้านล้านบาท ทะลุ 60% ของจีดีพี เป็นรัฐบาลที่สร้างหนี้สูงสุดสูงกว่าหนี้ที่รัฐบาลในอดีตสร้างมารวมกันทั้งหมด แต่ประเทศกลับไม่ได้มีการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานของไทยกลับเสื่อมโทรมมาก หาก พล.อ.ประยุทธ์ มีความรู้ความสามารถและเร่งลงทุนพัฒนาประเทศตั้งแต่สมัยนั้น เศรษฐกิจไทยคงไม่ย่ำแย่ขนาดนี้ และเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเร็วกว่านี้อีกมาก ไม่ใช่เป็นประเทศที่ฟื้นตัวช้าที่สุดประเทศหนึ่งของโลก 3 ปีแล้วที่อยู่ภาวะติดลบ

ดังนั้น คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อจึงขอทวงถาม พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐให้เร่งดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อจากเวียงจันทน์ และเพื่อเชื่อมต่อไปถึงประเทศจีนให้เร็วที่สุด เพื่อประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ หากรัฐบาลนี้ไม่ทำ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะทำแน่หากได้ความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งที่จะมาถึง และได้มีการเจรจากับสถานทูตจีนเบื้องต้นไว้แล้ว เมื่อครั้งที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเข้าพบกับสถานทูตจีน เพราะเชื่อว่าประเทศไทยและคนไทยจะได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และการค้าการลงทุน

“ในสถานการณ์ปัจจุบัน พิสูจน์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขาดความรู้ความสามารถ ขาดวิสัยทัศน์ ประเทศล้าหลัง ความสามารถแข่งขันของไทยลดลงอย่างมาก ระยะเวลา 8 ปี พิสูจน์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลวในการบริหาร ผลสำรวจของนิดาโพลแสดงว่า ประชาชน 64.25% ไม่ต้องการให้อยู่เกินวันที่ 24 ส.ค.นี้ และ 80.03% ไม่ต้องการให้พี่น้อง 3ป. ยุ่งกับการเมืองในครั้งหน้า อีกทั้งเจตนาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่เกิน 8 ปี หากจะดันทุรังกันต่อไป ประเทศจะยิ่งเสื่อมถอยแบบกู่ไม่กลับ” ส.ส.หนองคาย กล่าว