เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร (PCT) สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 จับกุมนายรัฐพล หรือบิว (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาหลอกขายสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี มีผู้ผู้เสียหายหลายร้อยราย โดยคดีดังกล่าว มีผู้เสียหายจำนวนมากถูกเฟซบุ๊กมิจฉาชีพหลอกลวงมีชื่อเปลี่ยนไปเพื่อก่อเหตุเรื่อยๆ ว่า บิว ช่านะ, บิว สักวันจะดีพอ, ทำดีได้แค่ไหน ก็พอไดแล้ว, ลิเวอร พุ, สิ่งที่ขาดหายไป ไม่มีวันกลับ เป็นต้น โดยใช้หลอกขายสินค้าหลากหลายชนิด เช่น สุนัข, ตัวนาก, จักรยานไฟฟ้า, รถยนต์, อาหารนก, พระเครื่อง, โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ กระทั่งช่วงหลังนายรัฐพล มักหลอกขายสุนัข โดยจะขายถูกกว่าราคาจริงมาก และมีการโพสต์ซ้ำๆ หลายๆ ครั้งให้มีเหยื่อหลงเชื่อ และใช้เทคนิคการตั้งราคาสินค้า แล้วให้จ่ายมัดจำแบบไม่แพงมากเพื่อประสงค์ให้ผู้เสียหายไม่เสียดายยอมปล่อยผ่าน ไม่แจ้งความดำเนินคดีให้เสียเวลา จนกลายเป็นบุคคลใน blacklistseller ระดับต้นๆ

จากนั้นตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในกลุ่มเพจเฟซบุ๊ก จนพบว่าคนร้ายมีการโพสต์ข้อความขาย ลูกสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี 2 ตัว บนกลุ่ม “น้องหมาสายพันธุ์เล็ก” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสวมรอยเป็นลูกค้าติดต่อขอซื้อจนสืบสวนทราบว่า นายรัฐพล พักอาศัยอยู่ที่ เอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 2 ซอยพูลเจริญ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานจึงขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรปราการออกหมายค้น ก่อนนำหมายค้นเข้าตรวจค้นพบนายรัฐพล จึงจับกุมตัว พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือเครื่องที่ใช้โทรศัพท์ติดต่อราคา โพสต์หลอกลวงผู้เสียหาย และสมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม และจากการสืบสวนขยายผลยังพบว่า นายรัฐพลได้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง เพราะในโทรศัพท์มือถือมีประวัติการสนทนา ซึ่งอยู่ระหว่างหลอกขายสุนัขอยู่อีกไม่ต่ำกว่า 5 ราย และในห้วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าสามารถหลอกลวงประชาชนได้สำเร็จกว่า 115 ราย โดยหลังมีการโอนเงินจะทำการบล็อกการติดต่อผู้เสียหายทันที

สอบสวนเบื้องต้น นายรัฐพลให้การรับสารภาพว่า ตกงานไม่มีรายได้หลัก จะมีก็เพียงงานพาร์ทไทม์เล็กๆน้อยๆ รายได้ไม่เพียงพอ จึงหันมาโกงชาวบ้านโดยทำมาได้ 4-5 ปี และช่วงหลังที่หลอกขายสุนัขเป็นหลัก เพราะว่าคนเลี้ยงสัตว์เป็นคนใจดี หลอกง่าย ยอมรับว่าแอบเอาบัญชีแม่ยายมาใช้รับเงินจากการโกงโดยที่แม่ยายไม่รู้เรื่อง และที่ทำมานานหลายปีเพราะพอทำได้โดยไม่เน้นเงินก้อนใหญ่ เพื่อทำให้ผู้เสียหายไม่เสียดายมาก ไม่ยอมเสียเวลามาแจ้งความ พอเคยทำได้ก็ติดเป็นนิสัยเลยทำเรื่อยมา ส่วนเงินที่ได้จากการโกงบางส่วนได้นำไปเปย์ให้แฟนสาวอีกคนที่อยู่ จ.นราธิวาส กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับ 3 หมาย และเคยถูกดำเนินคดี 9 คดี เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป