เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ประธานวิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 15 ส.ค.65 เพื่อลงมติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งพรรค พท.จะยังคงแสดงจุดยืนเดิมหรือไม่ ว่าเรื่องนี้ต้องถามหัวหน้า แต่คงต้องมีความจำเป็นยืนตามแนวทางเดิม ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องที่เราไม่อยากจะทำ แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อยับยั้งกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

เมื่อถามย้ำว่า จะแสดงจุดยืนออกมาในลักษณะไหน นายสุทิน กล่าวว่า แบบเดิม เราจะไม่เป็นองค์ประชุมให้ 

เมื่อถามว่า จะชี้แจงกับประชาชนอย่างไร หากไม่เป็นองค์ประชุมให้ระหว่างการประชุมรัฐสภา นายสุทิน กล่าวว่า ชี้แจงเหมือนที่ผ่านมาว่า มันเป็นการทำหน้าที่ ไม่ใช่การทิ้งหน้าที่ คือเสียงข้างน้อย หากจะยับยั้งเสียงข้างมาก คิดว่าเป็นเรื่องที่จะเสียหายต่อบ้านเมืองในอนาคต เราต้องใช้ทุกวิถีทางที่จะทำ แต่ว่ามันเป็นวิธีการที่อารยะ อยู่ในสภา ไม่ได้ปาสิ่งของ ไปลากเก้าอี้ ไปทุบตีประธานสภา แต่การนั่งโดยไม่แสดงตัวถือว่าเป็นอารยะ หากว่ารัฐบาลเสียงข้างมากคิดว่าจะลากต่อไป ท่านมีเสียงเยอะอยู่แล้ว ท่านสามารถดันต่อไปได้ เราจึงแสดงออกให้เห็น 

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เตรียมยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยในวาระ 3 หากร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ลงมติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายสุทิน กล่าวว่า ต้องพิจารณา 2 ก่อน หากองค์ประชุมครบ เสียงส่วนมาลงมติเห็นด้วย มันก็ผ่าน แต่เมื่อผ่านแล้วจะต้องไปที่กกต.อยู่ดี ของเราแสดงจุดยืนให้เห็น จะล่มไม่ล่ม ไม่ได้อยู่ที่เรา

ทางด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีวันที่ 17 ส.ค.65 จะยื่นตีความการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีวาระครบ 8 ปีหรือไม่ ว่ายื่นต่อประธานรัฐสภา เพราะว่ากฎหมายกำหนดว่าให้ยื่นต่อประธานรัฐสภา ส่วนเรื่องตีความรับธรรมนูญ ต้องมาดูว่าผลออกมาเป็นอย่างไรในวันที่ 15 ส.ค. อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้กำหนดไว้ หลังจากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนี้ ได้ผ่านรัฐสภาแล้ว อาจต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความเห็น

เมื่อถามวว่ามีกระแสข่าวพรรค พท. อยากให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขึ้นมาเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี แทน พล.อ.ประยุทธ์ มีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มีดีล ไม่เคยมีการดีล ตนรับรอง แต่ถ้านายกฯ ออก 8 ปี ตามที่คิดไว้ กระบวนการมีอยู่แล้วว่าต้องเอาคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ มาก่อน ไม่เห็นต้องให้ พล.อ.ประวิตร รักษาการแทนเลย ยกเว้นคนในบัญชีรายชื่อนายกฯ ไม่ได้มีเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเพียงพอ

เมื่อถามย้ำว่า หาก พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการนายกฯ จริงๆ จะมีลักษณะอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็แค่รักษาการนายกฯ ปกติการเป็นนายกฯ รักษาการ ก็ไม่ใช่ทำได้เต็มที่ เหมือนกับนายกฯ จริงๆ