จากกรณี นายสมควร เสายืน อายุ 47 ปี น้าเขยก่อเหตุจ่อยิง นายธีระยุทธ ใจดี อายุ 40 ปี หลานเขยเสียชีวิตก่อนใช้เท้ากระทืบซ้ำ ภายหลังตำรวจจับกุมได้ที่บ้านฝั่งตรงกันข้าม แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

น้าชายจ่อยิงหลานชายพี่เขยดับก่อนเตะ-เหยียบหน้าซ้ำ ชี้ปมขัดแย้งในครอบครัว

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้คุมตัว นายสมควร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางญาติผู้ตายที่ตะโกนสาปแช่งด่าทอด้วยความโกรธแค้น โดยนายสมควร ยังคงทำหน้าเรียบเฉยไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น เข้าไปชี้จุดเสร็จก็เดินกลับขึ้นรถตำรวจ โดยกล่าวตอบคำถามนักข่าวที่ไปรอทำข่าวว่า ไม่ได้โกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน และไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องขัดแย้งมรดกแต่อย่างใด จนทำให้ญาติของผู้ตายทนไม่ไหว ขอให้ตำรวจช่วยเปิดกระจกรถเพื่อคุยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีการสอบถามเพราะอะไร ถึงต้องลงมือฆ่าอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ตายเคยช่วยเหลือเรื่องงานศพแม่ของแม่ผู้ก่อเหตุแท้ ๆ กลับไปเนรคุณฆ่าเขาจนได้

โดย น.ส.นภาลักษณ์ อินทรสมัย อายุ 30 ปี ญาติที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ผู้ตายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่าง บ้านของตนที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านของ นายสมควร ที่ก่อเหตุแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายชอบมาหาเรื่องบ้านตนตลอดตั้งแต่ไปแจ้งความจับคนงาน กล่าวหาว่าไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตนก็นำเอกสารไปแสดงให้เห็นว่าทำมาหากินสุจริต แต่ก็ยังกลั่นแกล้งโวยวายเรื่องขยะอีก ซึ่งก็ปรับแก้ไขให้ตามที่ต้องการทุกอย่าง สำหรับเรื่องที่เข้ามาเอะอะโวยวายแล้วใช้ปืนยิงผู้ตายนั้น ตนไม่ทราบสาเหตุจริง ๆ ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ เป็นเรื่องอุกอาจมาก ยิงเสร็จยังไปกระทืบซ้ำ ปกติ นายสมควร ไม่ได้เป็นคนกล้าทำอะไรขนาดนี้มาก่อน น่าจะมีผู้อยู่เบื้องหลังอะไรบางอย่างไปปลุกปั่นยุยงให้ก่อเหตุเป็นแน่ ที่ผ่านมาทางญาติโดยเฉพาะแม่ของตนก็คอยอุปถัมภ์มาตลอด ไม่ว่าจะโดนคดีอะไร แม่ก็คอยตามเช็ดตามล้างให้ตลอด

ด้าน น.ส.บุญศรี เจิมนาค อายุ 55 ปี คนงานที่อยู่ขณะเกิดเหตุ กล่าวว่า อยู่ดี ๆ เขาก็เดินเข้ามายิง ตนก็กำลังเก็บกวาดอยู่ ได้ยิงเสียงปืน ปัง ปัง ก็แหงนดู ก็เห็นคนตายตกลงมา ตนเลยหนีออกไป ไม่เคยเห็นทั้งสองทะเลาะกันมาก่อน อยู่ดี ๆ วันนี้ก็มายิง ตนก็ใจเสีย เพราะเขาหันมาทางตนก็หนีก่อนเพราะกลัวว่าจะมายิงตนด้วย ที่ผ่านมาก็เจอกันทุกวัน และวันนี้ก็ยังมีญาตินายสมควร ก็มาพูดกับตนทำนองลักษณะข่มขู่ว่า ถ้าให้การเท็จระวังติดคุกนะ ตนเลยบอกว่าตนไม่ให้เท็จหรอก เพราะเขามีกล้องดูเห็นทุกคน ก่อนจะเงียบและเดินกลับบ้านไป.