เมื่อวันที่ 13 ส.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการผลักดันนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งส่งเสริมบทบาทสตรีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้ครัวเรือน และพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อย่างยั่งยืนนั้น จากการลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนหลายแห่ง พบว่าผู้หญิงคือกำลังหลัก และมีศักยภาพเป็นผู้ประกอบการได้อย่างทัดเทียมผู้ชาย ซึ่งภาครัฐพร้อมสนับสนุนการดำเนินกิจการให้ยิ่งประสบความสำเร็จ โดยในการไปเยี่ยมเยียนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบาราโหม พลาซ่า ต.บาราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี พบว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยพลังผู้หญิงคนรุ่นใหม่

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ครบวงจรและใช้ศักยภาพพื้นที่อย่างเต็มที่ ครอบคลุมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อันเก่าแก่หลายร้อยปี สมัยเจ้าเมืองปัตตานีพระองค์แรกที่นับถือศาสนาอิสลาม และสถาปนาเมืองปัตตานีเป็น “นครปาตานีดารุสลาม” ศึกษาวิถีชาวพุทธ-มุสลิมที่อยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน มีการท่องเที่ยวธรรมชาติ และมีร้านอาหารรสชาติท้องถิ่นดั้งเดิม ซึ่งคนทำงานในร้านมีรายได้ดี จากเดิมที่เคยไปทำงานร้านต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายสินค้าผ้าบาติกและของที่ระลึกที่มีอัตลักษณ์บาราโหม ซึ่งรายได้จากการขายอาหารและสินค้าทุกชิ้นจะถูกนำไปช่วยเหลือเด็กกำพร้าในพื้นที่ ทั้งนี้ กลุ่มสตรีของวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ได้ฝากให้ตนนำเสื้อเชิ้ตผ้าบาติกตัดเย็บสวยงาม และย้อมสีด้วยกาบมะพร้าว มามอบให้นายกรัฐมนตรีด้วย

“ท่านนายกฯ ชมว่าเสื้อสวย ตัดได้พอดีตัว มีเอกลักษณ์ ลวดลายเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ ท่านยังฝากชื่นชมในความสามารถของกลุ่มสตรีคนรุ่นใหม่ ที่รวมตัวกันเข้มแข็งตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน มีการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ของท้องถิ่นเป็นจุดขายในการสร้างรายได้แก่พื้นที่ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างมาก ทั้งนี้รัฐบาลเชื่อมั่นในพลังสตรีในการสร้างเศรษฐกิจ ประเทศไทยของเรามีตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพผู้หญิงในการเป็นผู้ประกอบการขนาดต่างๆ มีกรณีศึกษาที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กำหนดแนวทางส่งเสริมผู้ประกอบการหรือวิสาหกิจชุมชนสตรี สตรีพิการและสตรีที่อยู่ในสถานะเปราะบาง ในทุกภูมิภาค ทั้งด้านการเสริมความรู้และทักษะการเป็นผู้ประกอบการ การเงิน แหล่งลงทุน การเข้าถึงตลาด เป็นต้น พลังของสตรีจะช่วยลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจ สร้างการพัฒนาได้อย่างยั่งยืน” น.ส.รัชดา กล่าว