เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “สำนึกเป็นเรื่องสำคัญของผู้แทนประชาชนครับ คือเรื่องที่ผมขอฝากไปถึงผู้แทนของประชาชนในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (15 สิงหา 65) เพื่อพิจารณากฎหมายลูกระบบการเลือกตั้งครับ ประชาธิปไตยไม่ใช่รูปแบบการปกครองสำเร็จรูป ที่เมื่อมีเลือกตั้ง มีรัฐสภาและรัฐบาลแล้วจะบอกว่าดีกว่า ชอบธรรมกว่าการปกครองอื่นๆ ในทันที เราไม่ได้ยกย่องประชาธิปไตยกันด้วยเหตุผลนั้นครับ”

“แต่เรายึดถือประชาธิปไตยกันทั่วโลกก็เพราะระบอบนี้เรียกร้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ผูกมัดให้นักการเมืองจากการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบต่อประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ”

“ประชาธิปไตยจะเรียกว่าชอบธรรมได้ เราต้องดูกันที่ “คุณภาพของกระบวนการ” ว่าเปิดพื้นที่ให้ประชาชนแค่ไหน ผู้แทนรับผิดชอบต่อประชาชนเพียงใด และรัฐบาลฟังเสียงสะท้อนและตอบสนองต่อปัญหาของประชาชนอย่างไร นั่นคือเหตุผลที่เราเป็นประชาธิปไตยกัน”

“ถ้ากระบวนการสำคัญ สำนึกของนักการเมืองในกระบวนการก็สำคัญด้วยครับ ต่อให้เราออกแบบระบบเลือกตั้งและรัฐสภาดีแค่ไหน แต่ถ้านักการเมืองขาดสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประชาชน จะระบบเลือกตั้งไหนๆ ก็ไม่ช่วยยกระดับคุณภาพของกระบวนการได้”

“ซึ่งก็หมายความว่าประชาธิปไตยขาดความชอบธรรมตามไปด้วย เวลาเด็กๆ บกพร่องต่อหน้าที่สัก 2-3 ครั้ง ถ้าไม่หนักหนาเกินไปเราก็พร้อมให้อภัยใช่ไหมครับ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งถ้าเป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติแล้วด้วย บกพร่อง 2-3 ครั้ง ก็คงมองได้อย่างเดียวว่าเป็นความตั้งใจหรือทำอย่างมีเจตนาบางอย่าง”

“ปัญหา ก็คือ เจตนานั้นขัด หรือฝืนกับความต้องการของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ยิ่งถ้าไม่มีความต้องการของประชาชนอยู่ในนั้นเลยก็ยิ่งแล้วใหญ่”

“ผมเชื่อมั่นแบบนี้ว่าประชาธิปไตยจะชอบธรรมได้ทั้งกระบวนการและนักการเมืองต้องมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน จะบอกว่ามีการเลือกตั้งแล้ว เราเป็นประชาธิปไตยแล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเว้นแต่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบตามความคาดหวังของประชาชน”

“การเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกทีครับ ท่านอยากให้ประชาชนมีภาพจำท่านแบบไหน ท่านก็พึงทำแบบนั้น กลับกัน ท่านไม่อยากให้ประชาชนหมดศรัทธากับตัวท่านแบบไหน ก็พึงหลีกเลี่ยงกระทำสิ่งนั้น”