เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีคำสั่งนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ กฎหมายเลือกตั้ง เพื่อหาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะครบกำหนด 180 วันในวันที่ 15 ส.ค. นี้ ว่า กลุ่มพรรคเล็กได้ใช้ความพยายามสุดความสามารถหลังจากการประชุมร่วมรัฐสภาล่ม ในวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ท้ายที่สุดสภาก็ได้จัดการประชุมในวันเดียวกันนี้ เพื่อไปให้สุดทาง และทำหน้าที่อย่างเต็มหน้าที่ ซึ่งตามที่ทุกคนทราบว่าทางออกมี 3 แนวทาง คือ 1.องค์ประชุมจะล่มเหมือนวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา หรือไม่ คือจะล่มตั้งแต่แรก หรือประชุมไปสักพักหนึ่งแล้วจะล่ม 2.สภาจะครบองค์ประชุมแล้วเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆจนจบวาระสอง หลังจากนั้นจะมีการโหวตวาระสาม ซึ่งหากมีการคว่ำจะถือว่าจบกฎหมายลูกทั้ง 32 มาตราทั้งการหาร 100 และหาร 500 จะจบไป และจะต้องไปเริ่มต้นใหม่ และ 3. เดินจนจบวาระสอง และวาระสามและรอความเห็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เชื่อว่าแนวทางที่จะล่มเป็นไปได้มาก ย้ำว่าแนวโน้มจะออกมาในรูปแนวทางไหนตนไม่ทราบ
เมื่อถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น นพ.ระวี กล่าวว่า ตนไม่ได้มีโอกาสที่จะพบท่าน แต่กลุ่มพรรคเล็กไปพบท่าน 4-5 ครั้งแล้วก่อนที่จะถึงวันนี้ ก็จะต้องคอยติดตามดู ยืนยันว่าตนยังเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร ไม่หักกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เพราะดูว่าการหาร 500 ก็จะเห็นได้ว่าพรรคไหนที่ดิ้นเหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก แต่ถ้าจะเอาหาร 100 ด้วย ก็น่าสงสัยถ้าวันเดียวกันนี้ที่ประชุมสภาฯล่ม ทำให้กลับมาใช้หาร 100 หอกดาบจะไปที่ พล.อ.ประวิตร มากกว่าพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ส.ส.พรรค พปชร.จะไม่เข้าร่วมประชุมนั้น นพ.ระวี กล่าวว่า ประธานวิปรัฐบาล ได้แถลงไปแล้วว่า ส.ส.ต้องเข้าร่วมประชุม ก็ต้องติดตามดู ถ้าเข้าร่วมประชุมก็จะต้องบอกว่ายินดีต้อนรับองคุลีมาล ร่วมประชุมสภา ซึ่งก็จะต้องติดตามดูว่าจะเหมือนวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่การประชุมล่มหรือไม่ เพราะขณะประธานวิปรัฐบาลยังไม่แสดงตน เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมาเลย
เมื่อถามต่อถึงเกมที่สองพรรคการเมืองใหญ่จับมือกัน นพ.ระวี กล่าวว่า เป็นการกล่าวหา พล.อ.ประวิตร ต้องรอดูว่าเหตุการณ์ในภายภาคหน้าว่าเป็นจริงหรือเป็นเรื่องเท็จ แต่เป็นเรื่องจริงสิ่งที่ตนเป็นห่วงที่สุดก็คือพรรคพปชร.ลืมไปหรือเปล่าว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรค พปชร.เป็นพรรคทหาร และเป็นพรรคสืบทอดเผด็จการทหารหรือไม่ แต่ประชาชนส่วนข้างมากก็ไว้วางใจพรรค พปชร. และ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าเกิดพฤติกรรมที่มีการจับมือกันจริงๆ ตนคิดว่ามวลชนของทั้งสองฝ่ายไม่รู้ว่าจะแฮปปี้หรือไม่ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจริง ตนคิดว่าประชาชนจะพิพากษาพรรค พปชร.หรือไม่ ต้องไปคอยดูการเลือกตั้งในสมัยหน้า เพราะไม่แน่ ประชาชนอาจจะเปลี่ยนใจไปเทคะแนนให้กับพรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็กแทน ผลคะแนนอาจจะพลิกก็เป็นได้.
